ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งไม่หยุด ล่าสุดทะยานกว่า 400 จุด คลายกังวลเทรดวอร์

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 24, 2025 20:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 400 จุด ขานรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ส่งสัญญาณใช้ความยืดหยุ่นต่อแผนการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าอย่างเต็มรูปแบบของสหรัฐ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่านโยบายภาษีของปธน.ทรัมป์จะส่งผลกระทบเพียงชั่วคราวเท่านั้น

ณ เวลา 19.57 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์อยู่ที่ 42,724 จุด บวก 405 จุด หรือ 0.96%

สื่อรายงานว่า มาตรการภาษีที่ปธน.ทรัมป์จะประกาศใช้ในวันที่ 2 เม.ย. จะเป็นการประกาศใช้แบบเฉพาะเจาะจง โดยจะมีการยกเว้นภาษีสำหรับบางภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งยกเว้นภาษีสำหรับบางประเทศ

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า จะมีการใช้ความยืดหยุ่นต่อแผนการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ซึ่งสหรัฐมีกำหนดบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย.

"บางคนมาหาผมและพูดคุยเกี่ยวกับภาษีนี้ และหลายคนก็ขอร้องผมว่าพวกเขาจะได้รับการยกเว้นได้ไหม ซึ่งถ้าคุณอนุญาตให้หนึ่งคน คุณก็ต้องอนุญาตให้ทุกคน"

"ผมไม่ได้เปลี่ยนใจ แค่คำว่ายืดหยุ่นเป็นคำที่มีความสำคัญ" ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขามีแผนที่จะพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน หลังจากที่จีนประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าเกษตรของสหรัฐเพื่อตอบโต้ต่อการที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าจีน

ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า วันที่ 2 เม.ย.จะเป็นวันแห่งการปลดปล่อยสำหรับอเมริกา (Liberation Day) เนื่องจากเป็นวันที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ต่อสินค้าที่นำเข้าจากทุกประเทศที่เรียกเก็บภาษีต่อสินค้าสหรัฐ และแม้ว่าบางประเทศไม่ได้เรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้าสหรัฐ แต่ได้มีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ประเทศดังกล่าวก็จะถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีตอบโต้เช่นกัน

นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ

ทั้งนี้ ดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ