ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ณ เวลา 21.01 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 42,742.52 จุด บวก 155.02 จุด หรือ 0.36%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนก.พ. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 1.0% หลังจากพุ่งขึ้น 3.3% ในเดือนม.ค.
ยอดสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวได้แรงหนุนจากการที่ผู้ผลิตรีบเร่งสั่งสินค้าก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อเหล็กและอะลูมิเนียม
นักลงทุนจับตามาตรการทางภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมทั้งตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ
ปธน.ทรัมป์ส่งสัญญาณใช้ความยืดหยุ่นต่อแผนการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ในวันที่ 2 เม.ย. โดยจะเรียกเก็บต่อบางประเทศ แทนที่จะมีการบังคับใช้ในวงกว้าง
ล่าสุด เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐ ซึ่งรวมถึงนายสก็อต เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีดังกล่าวต่อกลุ่มประเทศ "Dirty 15" หรือ 15 ประเทศที่เกินดุลการค้าสูงสุดต่อสหรัฐ
แม้ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อ 15 ประเทศดังกล่าว แต่ข้อมูลจากสำนักงานสำมะโนประชากรของสหรัฐ (US Census Bureau) ระบุว่า 15 ประเทศที่เกินดุลการค้าสูงสุดต่อสหรัฐ (เรียงตามวงเงินเกินดุล) ได้แก่ จีน สหภาพยุโรป เม็กซิโก เวียดนาม ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แคนาดา อินเดีย ไทย สวิตเซอร์แลนด์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย กัมพูชา และแอฟริกาใต้
ส่วนข้อมูลจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ระบุว่า ประเทศที่เกินดุลการค้าสูงสุดต่อสหรัฐ (เรียงตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ) ได้แก่ อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา จีน สหภาพยุโรป อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ สวิตเซอร์แลนด์ ไต้หวัน ไทย ตุรกี สหราชอาณาจักร และเวียดนาม
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)