ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพุธ (26 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้น หลังจาก ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอังกฤษได้ประกาศชะลอแผนการใช้จ่ายของรัฐบาลในการอัปเดตงบประมาณ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,689.59 จุด เพิ่มขึ้น 25.79 จุด หรือ +0.30%
นักลงทุนได้รับแรงหนุนบางส่วนจากการที่รีฟส์ลดแผนการใช้จ่ายของรัฐบาลอังกฤษเพื่อลดแรงกดดันทางการคลัง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอซึ่งอาจกระทบต่อเป้าหมายทางการคลังของเธอ อย่างไรก็ตาม สำนักงานงบประมาณของอังกฤษได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ลงครึ่งหนึ่ง พร้อมกับปรับเพิ่มประมาณการหนี้สาธารณะและอัตราเงินเฟ้อ
ดัชนี FTSE 100 สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ในช่วงท้ายของวันหลังจากปรับตัวลงระหว่างวัน ขณะเดียวกัน ตลาดได้แรงหนุนจากข้อมูลที่ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษในเดือนก.พ. ลดลงมากกว่าคาดการณ์ โดยปรับตัวลงจาก 3.0% ในเดือนม.ค. เหลือ 2.8% ซึ่งช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของผู้บริโภคในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าราคาพลังงานที่สูงขึ้นอาจทำให้เงินเฟ้อปรับตัวขึ้นอีกในอนาคต
หุ้นกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยพุ่งขึ้น 2% ตามการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน โดยหุ้นเชลล์ (Shell) พุ่งขึ้น 2.4%
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ปรับตัวขึ้น 1.3%
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้นโอคาโด กรุ๊ป (Ocado Group) พุ่งขึ้น 16.3% หลังจาก เจพี มอร์แกน ปรับคำแนะนำลงทุนจาก คงน้ำหนักลงทุน (Neutral) เป็น เพิ่มน้ำหนักลงทุน (Overweight)