ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าร่วงลงในวันนี้ (31 มี.ค.) ท่ามกลางความวิตกกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะบังคับใช้ในสัปดาห์นี้ จะนำไปสู่การทำสงครามการค้าทั่วโลกและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 35,691.52 จุด ร่วงลง 1,428.81 จุด หรือ -3.85% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 23,022.05 จุด ร่วงลง 404.55 จุด หรือ -1.73% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,318.77 จุด ลดลง 32.53 จุด หรือ -0.97%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มผันผวนมากขึ้นในสัปดาห์นี้ ก่อนที่มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีผลบังคับใช้ในวันพุธที่ 2 เม.ย.
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเช้าวันนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตปรับตัวขึ้นแตะระดับ 50.5 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 50.2 ในเดือนก.พ. โดยดัชนี PMI เดือนมี.ค.ขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 1 ปี และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่จีนมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
ส่วนดัชนี PMI นอกภาคการผลิต ซึ่งรวมถึงภาคบริการและภาคก่อสร้างนั้น ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 50.8 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 50.4 ในเดือนก.พ.
ทั้งนี้ ดัชนีที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของจีนยังคงมีการขยายตัว