ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าร่วงลงในวันนี้ (9 เม.ย.) หลังจากมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เริ่มมีผลบังคับใช้
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,147.04 จุด ลดลง 865.54 จุด หรือ -2.62% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,815.24 จุด ลดลง 312.44 จุด หรือ -1.55% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,141.98 จุด ลดลง 3.57 จุด หรือ -0.11%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียร่วงลง 1.06% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.95%
มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ของปธน.ทรัมป์เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้ ซึ่งจะส่งผลให้สินค้าที่นำเข้าจาก 86 ประเทศถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 11% ไปจนถึง 84%
สำหรับจีนนั้น จะถูกเรียกเก็บภาษีรวม 104% โดยก่อนหน้านี้ จีนถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 20% ก่อนที่จะถูกเรียกเก็บเพิ่มอีก 34% และล่าสุดปธน.ทรัมป์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีจากจีนเพิ่มอีก 50% ในนาทีสุดท้ายก่อนที่มาตรการภาษีจะมีผลบังคับใช้ ส่งผลให้ขณะนี้จีนถูกเรียกเก็บภาษีโดยรวมสูงถึง 104%
ทั้งนี้ มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้จะแตกต่างกันไปเป็นรายประเทศ โดยขึ้นอยู่กับการตั้งกำแพงภาษีและมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีของประเทศต่าง ๆ ที่มีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐ ส่วนภาษีศุลกากรพื้นฐาน 10% ที่เรียกเก็บกับสินค้าจากทุกประเทศที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ นั้น มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.