ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงเกือบ 4% ในวันนี้ (9 เม.ย.) หลุดระดับ 32,000 จุด ท่ามกลางแรงเทขายที่เพิ่มสูงขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว หลังจากมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เริ่มมีผลบังคับใช้ และส่งผลกระทบถึงญี่ปุ่น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดร่วง 1,298.55 จุด หรือ -3.93% สู่ระดับ 31,714.03 จุด
หุ้นทุกกลุ่มปรับตัวลง นำโดยกลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก กลุ่มประกัน และกลุ่มเหมืองแร่
หุ้นปรับตัวลงในวงกว้าง โดยดัชนีนิกเกอิปรับตัวลงอย่างรุนแรงในช่วงสั้น ๆ กว่า 1,700 จุด หรือกว่า 5% หลังจากมาตรการภาษีศุลกากรเพิ่มเติมของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้ โดยญี่ปุ่นเผชิญกับอัตราภาษี 24%
การบังคับใช้มาตรการภาษีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตราสูงถึง 104% เนื่องจากจีนยังไม่ได้ถอนมาตรการภาษีตอบโต้
ดัชนีนิกเกอิได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งปรับตัวลงตามทิศทางหุ้นกลุ่มเดียวกันในดัชนี Nasdaq ของสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ โบรกเกอร์ระบุว่า เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นยังส่งผลให้เกิดแรงขายในหุ้นกลุ่มส่งออก ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเครื่องจักรและอิเล็กทรอนิกส์บางส่วนที่มียอดขายสูงในจีน เนื่องจากความกังวลว่า เศรษฐกิจอาจชะลอตัวลงไปอีกจากปัญหาความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯ ที่รุนแรงขึ้น