ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลดลงในวันนี้ (16 เม.ย.) โดยหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลกำไร หลังจากอินวิเดีย คอร์ป (Nvidia Corp.) บริษัทยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายจำนวนมากจากมาตรการของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการจำกัดการส่งออกชิปไปยังจีน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 33,920.40 จุด ลดลง 347.14 จุด หรือ -1.01%
หุ้นลบนำตลาดได้แก่ กลุ่มขนส่งทางทะเล กลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก และกลุ่มธนาคาร
ตลาดเปิดบวกเล็กน้อยในช่วงเช้าจากแรงซื้อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับความต้องการภายในประเทศ แต่ตลาดขาดแรงหนุนต่อเนื่อง หลังจากหุ้นกลุ่มชิปขนาดใหญ่ร่วงลงจากรายงานข่าวว่า อินวิเดียจะต้องบันทึกค่าใช้จ่าย 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่เกิดจากมาตรการของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการควบคุมการส่งออกชิป AI รุ่น H20 ไปยังจีน
หุ้นแอดแวนเทสต์ (Advantest) ซึ่งเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์รายใหญ่ของอินวิเดีย และเป็นหุ้นขนาดใหญ่ในดัชนีนิกเกอิ ร่วงลงถึง 6.5% ขณะที่มีแรงขายหุ้นอื่น ๆ ในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ด้วย อาทิ โตเกียวอิเล็คตรอน (Tokyo Electron)
การร่วงลงของตลาดรุนแรงขึ้นในช่วงบ่าย เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเครื่องจักรและอิเล็กทรอนิกส์ที่พึ่งพาการส่งออก โดยได้รับแรงกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจกระทบกำไรจากต่างประเทศเมื่อนำกลับมาแปลงเป็นเงินเยน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเลือกที่จะชะลอการซื้อขายก่อนที่การเจรจาภาษีระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเริ่มต้นในวันนี้ที่กรุงวอชิงตัน
"สถานการณ์ของตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ หากรายละเอียดของการเจรจาญี่ปุ่น-สหรัฐฯ ถูกเปิดเผย และหากสหรัฐฯ แสดงท่าทีที่ชัดเจนมากขึ้นว่า จะยังคงใช้นโยบายแข็งกร้าวกับจีนหรือไม่" คาซูโอะ คามิตานิ นักกลยุทธ์จากฝ่ายวิเคราะห์ของบริษัทโนมูระ ซีเคียวริตีส์ (Nomura Securities) กล่าว