ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นในวันพุธ (16 เม.ย.) หลังตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษที่ออกมาต่ำกว่าคาดช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน และหุ้นกลุ่มพลังงานที่พุ่งขึ้นช่วยหนุนตลาดด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,275.60 จุด เพิ่มขึ้น 26.48 จุด หรือ +0.32%
ดัชนี FTSE 100 ฟื้นตัวจากการร่วงลงในช่วงเช้า และขยายตัวต่อเนื่องจากวันอังคารซึ่งได้แรงหนุนหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่า อาจมีข้อยกเว้นเรื่องภาษีรถยนต์
ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 2.7% ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นราว 1% โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากความหวังว่าจีนและสหรัฐฯ อาจกลับมาเจรจาการค้า รวมถึงรายงานที่ว่า อิรักจะลดกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนเม.ย.
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทองคำปรับตัวขึ้นเช่นกัน หลังราคาทองคำพุ่งทะลุระดับ 3,300 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย โดยหุ้น Endeavour Mining พุ่งขึ้น 6.3% และเป็นหุ้นที่ปรับขึ้นมากที่สุดในดัชนี FTSE 100 ส่วนหุ้น Hochschild พุ่งขึ้น 5.5%
เงินเฟ้อของอังกฤษในเดือนมี.ค.ลดลงมาอยู่ที่ 2.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ความโล่งใจอาจอยู่ไม่นาน เพราะในเดือนเม.ย. จะมีการปรับขึ้นค่าสาธารณูปโภคและภาษีนายจ้าง ซึ่งอาจดันเงินเฟ้อกลับขึ้นไปแตะ 3%
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะยังคงระมัดระวังในการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า โดยมีความเสี่ยงจากภาษีสหรัฐฯ ที่อาจเพิ่มความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี หุ้นบางตัวถ่วงตลาด เช่น หุ้น Bunzl ร่วงลง 25.3% ทำสถิติร่วงแรงที่สุดในวันเดียว หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการปี 2568 และระงับการซื้อหุ้นคืน
หุ้น WH Smith ซึ่งเป็นธุรกิจร้านค้าปลีกร่วง 1% หลังรายงานผลกำไรครึ่งปีลดลงเล็กน้อย แม้บริษัทยังมั่นใจว่าจะทำตามเป้าหมายทั้งปีได้ก็ตาม
แต่หุ้น Oxford Instruments ผู้ผลิตเครื่องมือด้านนาโนเทคโนโลยี พุ่งขึ้น 7.7% หลังบริษัทคาดว่ากำไรประจำปีจะเป็นไปตามคาด