ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 1,000 จุด ขานรับการยืนยันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะไม่ปลดนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมทั้งการที่ปธน.ทรัมป์ส่งสัญญาณปรับลดอัตราภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากจีน
ณ เวลา 20.47 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 40,204.14 จุด บวก 1,017.16 จุด หรือ 2.60%
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาไม่มีความประสงค์ที่จะปลดนายพาวเวล ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดในเดือนพ.ค.2569
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์แสดงท่าทีประนีประนอมในการเจรจาการค้ากับจีน โดยระบุว่า อัตราภาษีในอัตรา 145% ที่เรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากจีน "ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก แต่สหรัฐจะไม่เรียกเก็บภาษีที่สูงเช่นนั้น โดยจะลดลงต่ำกว่านั้นมาก แต่ไม่ถึงระดับ 0%"
ตลาดยังได้แรงหนุนจากนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ซึ่งแสดงความหวังว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้า
นายเบสเซนต์ยืนยันว่า แม้สหรัฐจะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนขึ้นเป็น 145% และจีนจะตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐที่ระดับ 125% แต่เป้าหมายนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ใช่การแบ่งแยกเศรษฐกิจของสหรัฐและจีนออกจากกัน
"แม้ว่าการเจรจากับจีนมีแนวโน้มว่าจะเป็นเรื่องที่ยืดเยื้อและเหนื่อยยาก แต่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่คิดว่าจะปล่อยให้สถานการณ์ปัจจุบันดำเนินต่อไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง" นายเบสเซนต์กล่าว