ดัชนีดาวโจนส์ทะยานกว่า 400 จุด ทะลุแนว 40,000 โดยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้
ณ เวลา 00.39 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 40,019.57 จุด บวก 413.00 จุด หรือ 1.04%
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงในช่วงแรก หลังจากจีนยืนยันว่ายังคงไม่มีการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ ซึ่งได้สร้างความผิดหวังต่อนักลงทุนที่ต้องการเห็นความคืบหน้าในการเจรจาเพื่อลดความขัดแย้งในการทำสงครามการค้าของสหรัฐ
นายเหอ หย่าตง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ โดยระบุว่าข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้พุ่งขึ้นกว่า 400 จุด และในการซื้อขายระหว่างวันสามารถทะยานขึ้นกว่า 1,100 จุด ขานรับถ้อยแถลงของนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ที่ระบุว่า มีโอกาสที่สหรัฐและจีนจะบรรลุข้อตกลงการค้าครั้งใหญ่
ก่อนหน้านี้ นายเบสเซนต์แสดงความหวังว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้า
นายเบสเซนต์ยังยืนยันว่า แม้สหรัฐจะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนขึ้นเป็น 145% และจีนจะตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐที่ระดับ 125% แต่เป้าหมายนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ใช่การตัดขาดเศรษฐกิจของสหรัฐและจีนออกจากกัน
ด้านปธน.ทรัมป์แสดงท่าทีประนีประนอมในการเจรจาการค้ากับจีน โดยระบุว่า อัตราภาษีในอัตรา 145% ที่เรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากจีน "ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก แต่สหรัฐจะไม่เรียกเก็บภาษีที่สูงเช่นนั้น โดยจะลดลงต่ำกว่านั้นมาก แต่ไม่ถึงระดับ 0%"
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 9.2% ในเดือนมี.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 1.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนก.พ.
การพุ่งขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนมีสาเหตุจากการที่บริษัทต่าง ๆ พากันรีบสั่งซื้อสินค้าต่าง ๆ ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ต่อประเทศคู่ค้าในวันที่ 2 เม.ย.
ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากลดลง 0.3% ในเดือนก.พ.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์