ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (24 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายหลังตลาดพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้ ขณะที่ประเมินผลประกอบการของบริษัทต่างๆ และผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนแปลงไปมา
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,407.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.26 จุด หรือ +0.05%
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 1.6% แต่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะปรับตัวขึ้น หลังจากราคาทองแดงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ และราคาทองคำก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น บริษัทยูนิลีเวอร์ (Unilever) รายงานยอดขายไตรมาสแรกสูงกว่าที่คาด และประเมินว่าผลกระทบจากภาษีนำเข้าโดยตรงจะเป็นไปอย่างจำกัด อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นลดลงเล็กน้อย 0.5%
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวผันผวนในสัปดาห์นี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ออกมาวิจารณ์ เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากนั้นได้ยกเลิกท่าทีดังกล่าว
ขณะเดียวกัน สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ระบุว่า ภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐฯ-จีน ไม่สามารถคงอยู่ในระยะยาวได้ แต่ก็ไม่สนับสนุนการลดภาษีแต่เพียงฝ่ายเดียว ข้อความที่ย้อนแย้งกันเช่นนี้ สร้างความไม่แน่นอนให้กับนักลงทุน
ด้านแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) แสดงความกังวลอย่างจริงจังต่อผลกระทบจากความปั่นป่วนของการค้าโลกที่อาจฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ก่อนการประชุมนโยบายการเงินและเผยแพร่คาดการณ์เศรษฐกิจครั้งถัดไปในอีกสองสัปดาห์ ซึ่งขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์เกือบ 100% ว่า BoE จะลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในวันที่ 8 พ.ค.