ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวทะยานขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สามโดยปิดตลาดวันนี้ (25 เม.ย.) บวกไปเกือบ 2% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. โดยได้ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากความหวังว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะคลี่คลายลง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 35,705.74 จุด เพิ่มขึ้น 666.59 จุด หรือ +1.90%
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นนำตลาดได้แก่ กลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มขนส่งทางทะเล
แรงซื้อถาโถมเข้ามาในตลาด โดยเฉพาะในช่วงบ่าย หลังจากมีรายงานว่าทางการจีนกำลังพิจารณาที่จะยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้า 125% กับสินค้าบางรายการจากสหรัฐฯ ข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นของบริษัทที่พึ่งพิงตลาดจีนอย่างมากดีดตัวขึ้นอย่างชัดเจน
นอกจากประเด็นการค้าแล้ว ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าลง ซึ่งเป็นผลดีต่อกลุ่มผู้ส่งออกรายใหญ่อย่างยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักร เนื่องจากช่วยเพิ่มผลกำไรเมื่อแปลงรายได้จากต่างประเทศกลับเป็นเงินเยน
คาซูโอะ คามิทานิ นักกลยุทธ์ในแผนกคอนเทนต์การลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ ให้ความเห็นว่า "การที่ความตึงเครียดด้านภาษีระหว่างสหรัฐฯ-จีนเริ่มผ่อนคลายลง ส่งผลบวกโดยตรงต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อพิจารณาจากขนาดการค้าของทั้งสองประเทศที่มีผลต่อเศรษฐกิจโลก"
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นมีการย่อตัวลงบ้างเล็กน้อยก่อนปิดตลาด โบรกเกอร์ให้ความเห็นว่าเกิดจากแรงขายทำกำไรและปรับพอร์ตของนักลงทุนบางส่วน ก่อนที่จะถึงช่วงวันหยุดยาว Golden Week ของญี่ปุ่น
มาซาฮิโระ ยามากูจิ หัวหน้าฝ่ายวิจัยการลงทุนของ SMBC Trust Bank กล่าวว่า ตลาดอาจ "มองโลกในแง่ดีเกินไป" เนื่องจากยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนในการเจรจาประเด็นภาษีระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ
"มีความเป็นไปได้ที่หลายบริษัทอาจต้องปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ หรือยังไม่สามารถให้ตัวเลขคาดการณ์ได้" เพราะผลกระทบจากกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ยามากูจิกล่าว