โนวาร์ตีส (Novartis) บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่จากสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดทั้งปี 2568 ให้สดใสยิ่งขึ้นในวันนี้ (29 เม.ย.) สืบเนื่องจากผลการดำเนินงานอันแข็งแกร่งในไตรมาสแรก โดยเฉพาะการเติบโตอย่างโดดเด่นของยาสำคัญ ๆ เช่น Leqvio, Kisqali และ Kesimpta
โนวาร์ตีสแถลงว่า ปัจจุบันคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานสำหรับปี 2568 (ซึ่งได้ปรับปรุงสำหรับรายการพิเศษแล้ว) จะเติบโตในระดับ "เลขสองหลักต้น ๆ"
ตัวเลขคาดการณ์ใหม่นี้สูงกว่าประมาณการเดิมที่บริษัทเคยให้ไว้ว่าจะเติบโตในกรอบ "เลขหลักเดียวสูง ๆ ถึงเลขสองหลักต้น ๆ" ในปีนี้ หลังจากที่ขยายตัว 22% ในปี 2567
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2568 กำไรสุทธิ (ปรับปรุงสำหรับรายการพิเศษ) พุ่งขึ้น 22% แตะระดับ 4.48 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ราว 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อพิจารณาเป็นรายผลิตภัณฑ์ พบว่า ยา Kisqali ซึ่งใช้รักษามะเร็งเต้านม มียอดขายรายไตรมาสเติบโตก้าวกระโดดถึง 52% คิดเป็นมูลค่า 956 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยา Leqvio ซึ่งเป็นยาลดคอเลสเตอรอล ก็มียอดขายพุ่งสูงขึ้นถึง 70% เป็น 257 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลับมาเติบโตได้อย่างน่าประทับใจหลังจากช่วงเปิดตัวที่ดูไม่หวือหวานัก โดยยอดขายของยาทั้งสองตัวนี้ล้วนทำได้ดีเกินความคาดหมายของตลาด
นักวิเคราะห์จากเจพี มอร์แกน (JP Morgan) ให้ความเห็นผ่านบทวิเคราะห์ว่า "เราคาดว่าผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสนี้ ประกอบกับการปรับเพิ่มแนวโน้มปี 2568 จะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด" พร้อมเสริมว่า การปรับเพิ่มครั้งนี้มีแนวโน้มจะผลักดันให้ประมาณการกำไรเฉลี่ยของนักวิเคราะห์สำหรับปี 2568 (ที่ปรับปรุงแล้ว) สูงขึ้นอีกราว 1%
นอกเหนือจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งแล้ว เมื่อต้นเดือนนี้ โนวาร์ตีสยังได้ประกาศแผนการลงทุนครั้งใหญ่ มูลค่า 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างและขยายโรงงานผลิต 10 แห่งในสหรัฐฯ สืบเนื่องมาจากความกังวลต่อนโยบายภาษีนำเข้ายา ที่อาจถูกบังคับใช้โดยรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ
วาส นาราซิมฮาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโนวาร์ตีส กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้ขยายกำลังการผลิตในยุโรปและภูมิภาคอื่น ๆ เพื่อป้อนสินค้าให้กับตลาดสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท
นาราซิมฮานกล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนทางโทรศัพท์ว่า ตอนนี้บริษัทต้องการสร้างความมั่นใจว่า ดีมานด์ทั้งหมดสำหรับผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทในสหรัฐฯ นั้น 100% จะต้องมาจากการผลิตขึ้นภายในสหรัฐฯ เอง
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณการผลิตตามแผนดังกล่าว