World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Monday July 15, 2013 06:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ก.ค.) ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยแม้ว่าตลาดหุ้นเยอรมนีและตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวก แต่ดัชนี Stoxx 600 ก็ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคของสเปน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 296.2 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,212.77 จุด เพิ่มขึ้น 53.97 จุด +0.66% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,855.09 จุด ลดลง -13.89 จุด หรือ -0.36% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,544.94 จุด เพิ่มขึ้น 1.53 จุด หรือ +0.02%

-- ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อวันศุกร์ (12 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงิน หลังจากที่เจพี มอร์แกน ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ช่วงบวกถูกจำกัดจากแรงขายทำกำไร หลังหุ้นปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวันก่อนจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะเดินหน้านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มเหมืองร่วงลง

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,544.94 จุด เพิ่มขึ้น 1.53 จุด หรือ 0.02%

-- ดัชนีหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (12 ก.ค.) โดยดาวโจนส์ และดัชนี S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ เพราะได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของสองธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง เจ.พี. มอร์แกน และ เวลส์ ฟาร์โก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับขึ้น 3.38 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 15,464.30 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 5.17 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 1,680.19 จุด ดัชนี Nasdaq บวก 21.78 จุด หรือ 0.61% ปิดที่ 3,600.08 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (12 ก.ค.) จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ปริมาณน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐจะลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 หลังจากที่ร่วงลงอย่างมากในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 105.95 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน ดีดขึ้น 1.08 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 108.81 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (12 ก.ค.) เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นได้ลดความน่าสนใจของทองคำในฐานะที่เป็นแหล่งลงทุนทางเลือก อย่างไรก็ดี ตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาทองทะยานขึ้นกว่า 5% ซึ่งถือเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดสำหรับสัญญาทองคำในรอบเกือบ 2 ปี

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 2.3 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,277.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ในวันศุกร์ สำหรับตลอดสัปดาห์ ราคาทองพุ่งสูงขึ้น 5.4% ซึ่งเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 4 สัปดาห์ที่สัญญาทองคำดีดตัวขึ้น และยังเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 28 ต.ค. 2554 จากข้อมูลของ FactSet

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 16.4 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 19.792 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,406.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ขยับลง 70 เซนต์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 722.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.70 ดอลลาร์

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (12 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอมาตรการกระตุ้นทางเงิน แม้นายเบน เบอร์นันเก้ เพิ่งส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายและตรึงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ที่ระดับต่ำต่อไปก็ตาม

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 99.38 เยน จากระดับ 99.03 เยนในการซื้อขายวันก่อน, ขยับขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9467 ฟรังค์ จากระดับ 0. 9463 ฟรังค์ และแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0391 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.0374 ดอลลาร์แคนาดา

ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3061 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3104 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5104 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5192 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.9059 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9176 ดอลลาร์สหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ