การดีดตัวขึ้นของราคาหุ้นโฟล์คสวาเกน เกิดขึ้นหลังจากที่ร่วงลง 7% ในการซื้อขายช่วงแรกวันนี้ ต่ำกว่าระดับ 100 ยูโรเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปี
เมื่อวานนี้ ราคาหุ้นบริษัทดิ่งลง 17% ขณะที่ทรุดตัวลง 20% ในวันจันทร์ ส่งผลให้มูลค่าตลาดของโฟล์คสวาเกนหายไปเกือบ 2.5 หมื่นล้านยูโร (2.8 หมื่นล้านดอลลาร์) ภายในเวลาเพียง 2 วัน
นายวินเทอร์คอร์นประกาศลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบต่อข่าวอื้อฉาวที่ว่าทางบริษัทได้โกงการตรวจสอบการปล่อยมลพิษจากรถยนต์ดีเซลในสหรัฐ
"โฟล์คสวาเกนจำเป็นต้องมีการเริ่มต้นใหม่ รวมทั้งในแง่ของบุคคลากร ผมจึงขอประกาศลาออกเพื่อเปิดทางไปสู่การเริ่มต้นใหม่ของบริษัท" นายวินเทอร์คอร์นระบุในแถลงการณ์
อย่างไรก็ดี นายวินเทอร์คอร์นยืนยันว่า เขาไม่มีส่วนรู้เห็นต่อการกระทำผิดใดๆ ที่เกิดขึ้น
การลาออกของนายวินเทอร์คอร์นมีขึ้น หลังจากที่เขาถูกคณะกรรมการบริหารของโฟล์คสวาเกนเรียกตัวเขามาชี้แจงกรณีข่าวอื้อฉาวดังกล่าวในวันนี้
หนังสือพิมพ์ Tagesspiegel ของเยอรมนีรายงานก่อนหน้านี้ว่า บริษัทโฟล์คสวาเกนเตรียมปลดนายวินเทอร์คอร์น ออกจากตำแหน่ง จากกรณีอื้อฉาวที่บริษัทได้โกงผลการตรวจสอบการปล่อยมลพิษของรถยนต์ในสหรัฐ
Tagesspiegel รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่ระบุชื่อในคณะกรรมการบริหารของโฟล์คสวาเกนว่า นายมัทเทียส มูลเลอร์ ซึ่งเป็นประธานฝ่ายธุรกิจรถสปอร์ตของปอร์เช่ ซึ่งอยู่ในเครือของโฟล์คสวาเกน จะเข้ามารับตำแหน่งแทนที่นายวินเทอร์คอร์น
ทางการสหรัฐระบุเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า โฟล์คสวาเกนจงใจติดตั้งซอฟท์แวร์ในรถยนต์ดีเซลเกือบ 5 แสนคันเพื่อทำให้ดูเหมือนว่ามีการปล่อยไอเสียน้อยกว่าความเป็นจริง
หากพบว่าบริษัทมีความผิดจริง ก็จะถูกทางการสหรัฐปรับเป็นเงินจำนวน 37,500 ดอลลาร์ต่อคัน ซึ่งจะรวมกันมากกว่า 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 650,000 ล้านบาท
โฟล์คสวาเกนได้ยอมรับว่าได้ทำการติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวในรถยนต์ของบริษัทจำนวน 11 ล้านคันทั่วโลก
โปรแกรมที่ทางบริษัทติดตั้งในรถยนต์ดีเซลจะทำให้เครื่องยนต์เข้าสู่โหมดพลังงานสะอาด หากกำลังถูกเจ้าหน้าที่ทำการตรวจจับมลพิษ และหากผ่านพ้นช่วงดังกล่าว โปรแกรมก็จะทำให้รถยนต์กลับมาอยู่ในโหมดขับขี่ปกติ ซึ่งจะทำให้มีการปล่อยมลพิษมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานตามกฎหมายถึง 40 เท่า