การแสดงความเห็นของนายซงสะท้อนข้อเรียกร้องของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของจีนหลายรายที่เรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎระเบียบเกี่ยวกับการชำระเงินในส่วนของหลักทรัพย์สำหรับการควบรวมกิจการของจีนเพิ่มเติม เนื่องจากพบว่ากฎระเบียบมีข้อจำกัดในการดำเนินการตามโครงการ Belt and Road
ก่อนหน้านี้ สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับกฎระเบียบของจีนได้ออกกฎระเบียบ เพื่อควบคุมไม่ให้สัดส่วนโควต้าการลงทุนในหลักทรัพย์ภายในประเทศต่อทรัพย์สินหรือหลักทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการสูงกว่าที่กำหนด
สถิติล่าสุดบ่งชี้ว่า การเปิดบัญชี QFII ใหม่เพื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ภายในประเทศจะมีอายุไม่เกิน 49 เดือน โดยในเดือนก.พ. บัญชี QFII จำนวน 24,279 บัญชีได้รับโควต้าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ภายในประเทศเป็นจำนวนเงิน 8.0795 หมื่นล้านดอลลาร์
แหล่งข่าววงในอุตสาหกรรมระบุว่า การเปิดบัญชีเพื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ภายในประเทศภายใต้โครงการ QFII และจำนวนเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นของบัญชีดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนต่างประเทศเชื่อว่ามูลค่าหุ้น A-share ของจีนอยู่ในช่วงราคาที่สมเหตุผล
ด้านนายกุย หมินจี ประธานตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า การเตรียมการสำหรับอุตสาหกรรมเกิดใหม่เชิงกลยุทธ์เป็นไปด้วยดี แต่ได้ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปการออกหุ้นของบริษัทจดทะเบียน โดยกล่าวเสริมว่า ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ให้ความสำคัญกับกฎระเบียบของตลาดและการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ การควบคุมความเสี่ยง เสถียรภาพของตลาด และการรักษาระเบียบของตลาด สำนักข่าวซินหัวรายงาน