นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน ก็เป็นปัจจัยหนุนตลาดในวันนี้
ทั้งนี้ ดัชนี DAX ของตลาดหุ้นเยอรมนีพุ่งขึ้น 1.3% สู่ระดับ 9,819 ส่วนดัชนี CAC-40 ของตลาดหุ้นฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 1.1% สู่ระดับ 4,452 ส่วนดัชนี FTSE 100 ของตลาดหุ้นอังกฤษ บวก 0.7% แตะระดับ 6,167
ECB จะทำการประชุมนโยบายการเงินในวันพรุ่งนี้ ส่วนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะมีการประชุมในสัปดาห์หน้า
นักวิเคราะห์คาดว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในการประชุมพรุ่งนี้ โดย ECB อาจทำการเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งขณะนี้มีวงเงินอยู่ที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน
นอกจากนี้ ECB อาจทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับธนาคารพาณิชย์ที่นำเงินมาฝากไว้ที่ ECB จากขณะนี้ที่ระดับ -0.3% โดยธนาคารพาณิชย์จะต้องเป็นฝ่ายจ่ายค่าฝากแก่ ECB หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB โดยมาตรการของ ECB มีขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ แทนที่จะนำมาพักไว้ที่ ECB และต้องการลดการออมของประชาชน เพื่อให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น และกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดีดตัวขึ้นกว่า 1% ในวันนี้ จากการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถบรรลุข้อตกลงจำกัดการผลิตในการประชุมเดือนนี้
ณ เวลา 19.14 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ 1.75% สู่ระดับ 37.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
สมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซียจะประชุมกันในวันที่ 20 มี.ค. เพื่อหารือกันเกี่ยวกับการผลักดันราคาน้ำมันขึ้น หลังจากที่ทรุดตัวลงก่อนหน้านี้
ขณะนี้ ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น 25% นับตั้งแต่ที่ซาอุดิอาระเบีย รัสเซีย เวเนซุเอลา และกาตาร์บรรลุข้อตกลงในเดือนที่แล้วในการตรึงกำลังการผลิตน้ำมัน แต่มีเงื่อนไขว่าประเทศอื่นจะต้องให้ความร่วมมือด้วย ขณะที่อิหร่านแสดงการคัดค้าน เนื่องจากต้องการผลิตน้ำมันชดเชยในส่วนที่ได้ขาดหายไปในช่วงที่ถูกนานาชาติคว่ำบาตร