เขากล่าวว่า จากการวิเคราะห์พบว่า หากนายทรัมป์ดำเนินตามนโยบายที่เขาได้กล่าวไว้ในการหาเสียง ก็จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
นายไวเนอร์ระบุว่า ข้อเสนอของนายทรัมป์ในการลดภาษีสำหรับกลุ่มคนร่ำรวยที่สุดของสหรัฐ จะทำให้รายได้ของรัฐบาลขาดหายไปเป็นจำนวนมาก คิดเป็นมูลค่าราว 10 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงทศวรรษต่อไป
ส่วนข้อเสนอของนายทรัมป์ที่ต้องการเพิ่มความเข้มแข็งทางการทหารของสหรัฐ และหนุนปัจจัยโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ จะส่งผลให้รายจ่ายในภาครัฐเพิ่มขึ้น และทำให้มีการขาดดุลงบประมาณมากขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อสถานะความน่าเชื่อถือของประเทศ
ขณะเดียวกัน ข้อเสนอของนายทรัมป์ในการเนรเทศผู้ที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จะทำให้รัฐบาลสหรัฐมีค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการดำเนินการ และการเนรเทศคนงานเหล่านี้ จะทำให้สหรัฐเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน
นอกจากนี้ หากนายทรัมป์ปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าต่อสินค้าจากจีน เม็กซิโก และประเทศอื่นๆ สิ่งนี้จะทำให้ราคาสินค้าพุ่งขึ้น และส่งผลกระทบต่อคนยากจน และผู้บริโภค
นายไวเนอร์กล่าวเตือนว่า นโยบายของนายทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม S&P 500 โดยกำไรต่อหุ้นจะดิ่งลงอย่างมาก เทียบเท่ากับราคาหุ้นที่ทรุดตัวลง 50%