สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ตลาดหุ้นไทยถือเป็นตลาดแห่งหนึ่งของเอเชียที่มีการปรับตัวดีที่สุดในปีนี้ แม้เกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นหลายครั้งในประเทศ
ทั้งนี้ ดัชนี SET ได้ทะยานขึ้น 19.32% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ เป็นรองแต่เพียงดัชนีการาจี 100 ของตลาดหุ้นปากีสถาน ขณะที่ดัชนี MSCI International All country Asia Pacific ex Japan บวกขึ้นเพียง 9.78% ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลก
นักวิเคราะห์ระบุว่า มีสาเหตุหลายประการทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกที่ช่วยหนุนอุปสงค์ในตลาดหุ้นไทย
ประการแรก คือ เศรษฐกิจไทยได้ปรับตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยอัตราการขยายตัวในไตรมาส 2 พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 ไตรมาส
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ดิ่งลงได้ช่วยหนุนดุลบัญชีเดินสะพัด และค่าเงินบาท
นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า "นักลงทุนต่างชาติมองว่าตลาดหุ้นไทยเป็นแหล่งลงทุนที่มีความปลอดภัย โดยเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงน้อยต่อปัจจัยภายนอก และภาวะการเมืองก็ค่อนข้างมีเสถียรภาพ"
เขายังระบุว่า ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพ เนื่องจากไทยมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูงถึง 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งเทียบเท่ากับ 4.5% ของจีดีพี
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์มองว่า ผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในต้นเดือนนี้เป็นการบ่งชี้ถึงเสถียรภาพทางการเมืองของไทย ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจ รวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
นอกจากนี้ ค่าพี/อีเรโชของดัชนี SET ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่น โดยอยู่ที่ 17.58 เท่า เทียบกับตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ที่ 21.63 เท่า และตลาดหุ้นอินโดนีเซียที่ 19.05 เท่า