ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 พ.ย. 2559
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) โดยตลาดปิดในแดนลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากมีข่าวว่าสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้คะแนนนิยมของนางฮิลลารี และนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรรีพับลิกัน สูสีกันอย่างมาก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากกระคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,037.10 จุด ร่วงลง 105.32 จุด หรือ -0.58% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,153.58 จุด ลดลง 35.55 จุด หรือ -0.69% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,111.72 จุด ลดลง 14.43 จุด หรือ -0.68%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง รวมทั้งความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากมีข่าวว่าสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 1.1% ปิดที่ 335.33 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,526.16 จุด ลดลง 138.85 จุด หรือ -1.30% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,470.28 จุด ลดลง 38.98 จุด หรือ -0.86% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,917.14 จุด ลดลง 37.08 จุด หรือ -0.53%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) เช่นเดียวกับตลาดหุ้นยุโรปที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากมีข่าวว่าสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้คะแนนนิยมของนางฮิลลารี และนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรรีพับลิกัน สูสีกันอย่างมาก
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 37.08 จุด หรือ 0.53% แตะที่ 6,917.14 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) หลังจากผลสำรวจของนักวิเคราะห์ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะพุ่งขึ้นกว่า 1 ล้านดอลลาร์ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 46.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 47 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 48.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ และความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 14.9 ดอลลาร์ หรือ 1.17% ปิดที่ระดับ 1,288.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 62.2 เซนต์ หรือ 3.50% ปิดที่ 18.418 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 19.3 ดอลลาร์ หรือ 1.97% ปิดที่ 997.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 6.10 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 634.10 ดอลลาร์/ออนซ์
-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากมีข่าวว่าสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้คะแนนนิยมของนางฮิลลารี และนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรรีพับลิกัน สูสีกันอย่างมาก
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 104.00 เยน จากระดับ 104.88 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9745 ฟรังก์ จากระดับ 0.9896 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3385 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3406 ดอลลาร์แคนาดา
เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1059 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0977 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.2240 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2228 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7649 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7611 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,037.10 จุด ลดลง 105.32 จุด, -0.58%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,153.58 จุด ลดลง 35.55 จุด, -0.69%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,111.72 จุด ลดลง 14.43 จุด, -0.68%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,470.28 จุด ลดลง 38.98 จุด, -0.86%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,526.16 จุด ลดลง 138.85 จุด, -1.30%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,917.14 จุด ลดลง 37.08 จุด, -0.53%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,876.61 จุด ลดลง 53.60 จุด, -0.19%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,670.930 จุด ลดลง 1.53 จุด, -0.09%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,813.69 จุด ลดลง 0.18 จุด, -0.01%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,416.01 จุด ลดลง 6.53 จุด, -0.12%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,147.07 จุด เพิ่มขึ้น 212.53 จุด, +0.93%
ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 676.60 จุด เพิ่มขึ้น 0.80 จุด, +0.12%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,122.44 จุด เพิ่มขึ้น 21.94 จุด, +0.71%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,007.39 จุด ลดลง 0.80 จุด, -0.04%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,442.40 จุด เพิ่มขึ้น 17.38 จุด, +0.10%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,272.70 จุด ลดลง 17.42 จุด, -0.19%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,290.50 จุด ลดลง 27.20 จุด, -0.51%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,375.20 จุด ลดลง 27.20 จุด, -0.50%