World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 4, 2016 07:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 พ.ย. 2559

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) โดยดาวโจนส์ปรับตัวลงติดต่อกัน 6 วันทำการ ขณะที่ดัชนี S&P 500 ทำสถิติร่วงลงติดต่อกัน 8 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากคะแนนนิยมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน เริ่มตีตื้นเข้าใกล้นางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นเฟซบุ๊ก ภายหลังจากบริษัทคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 4/2559 อาจชะลอตัวลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,930.67 จุด ลดลง 28.97 จุด หรือ -0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,058.41 จุด ลดลง 47.16 จุด หรือ -0.92% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,088.66 จุด ลดลง 9.28 จุด หรือ -0.44%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) โดยตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งในสหรัฐ และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปขยับลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า ศาลสูงสุดของสหราชอาณาจักรมีคำวินิจฉัยว่ารัฐบาลของสหราชอาณาจักรจะต้องขอการอนุมัติจากรัฐสภาเพื่อเริ่มต้นกระบวนการแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) ก่อนที่รัฐบาลจะสามารถดำเนินการได้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้นเพียง 0.01 จุด ปิดที่ 331.56 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,411.68 จุด ลดลง 2.99 จุด หรือ -0.07% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,325.88 จุด ลดลง 45.05 จุด หรือ -0.43% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,790.51 จุด ลดลง 54.91 จุด หรือ -0.80%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มส่งออก เนื่องจากการแข็งค่าของเงินปอนด์ หลังศาลสูงสุดของสหราชอาณาจักรมีคำวินิจฉัยว่า รัฐบาลของสหราชอาณาจักรจะต้องขอการอนุมัติจากรัฐสภาเพื่อเริ่มต้นกระบวนการแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) ก่อนที่รัฐบาลจะสามารถดำเนินการได้

ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 54.91 จุด หรือ 0.80% แตะที่ 6,790.51 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) โดยสัญญาน้ำมันปรับตัวลงติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด และการผลิตน้ำมันประจำเดือนต.ค.ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 68 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 44.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 51 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 46.35 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 4.9 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ระดับ 1,303.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 27.7 เซนต์ หรือ 1.48% ปิดที่ 18.416 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 7.4 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ 994.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 16.90 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 617.60 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สกุลเงินปอนด์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) หลังศาลสูงสุดของสหราชอาณาจักรมีคำวินิจฉัยว่า รัฐบาลของสหราชอาณาจักรจะต้องขอการอนุมัติจากรัฐสภาเพื่อเริ่มต้นกระบวนการแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) ก่อนที่รัฐบาลจะสามารถดำเนินการได้

เงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.2460 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2294 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7680 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7661 ดอลลาร์สหรัฐ และเงินยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.1104 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1096 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 103.00 เยน จากระดับ 103.28 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9744 ฟรังก์ จากระดับ 0.9728 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3400 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3388 ดอลลาร์แคนาดา

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,930.67 จุด ลดลง 28.97 จุด, -0.16%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,058.41 จุด ลดลง 47.16 จุด, -0.92%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,088.66 จุด ลดลง 9.28 จุด, -0.44%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,411.68 จุด ลดลง 2.99 จุด, -0.07%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,325.88 จุด ลดลง 45.05 จุด, -0.43%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,790.51 จุด ลดลง 54.91 จุด, -0.80%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,430.28 จุด ลดลง 96.94 จุด, -0.35%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,648.08 จุด ลดลง 11.52 จุด, -0.69%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,802.08 จุด ลดลง 5.06 จุด, -0.18%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,329.50 จุด ลดลง 75.96 จุด, -1.41%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 22,683.51 จุด ลดลง 126.99 จุด, -0.56%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,160.91 จุด ลดลง 91.49 จุด, -1.26%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,128.94 จุด เพิ่มขึ้น 26.20 จุด, +0.84%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,983.80 จุด เพิ่มขึ้น 4.86 จุด, +0.25%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดวันนี้ที่ 9,067.27 จุด ลดลง 71.77 จุด, -0.79%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดวันนี้ที่ 5,225.60 จุด ลดลง 3.40 จุด, -0.07%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดวันนี้ที่ 5,306.50 จุด ลดลง 4.50 จุด, -0.08%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ