นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมีแนวโน้มพุ่งขึ้นในเดือนนี้ แม้ปรับตัวลงในไตรมาสแรก
ทั้งนี้ หลังจากดีดตัวขึ้นในเดือนม.ค. แต่ร่วงลงในเดือนก.พ.และมี.ค. ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ดิ่งลง 1% ในไตรมาสแรก หลังจากที่ปรับตัวขึ้นทุกไตรมาสนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2558
นอกจากนี้ การร่วงลงของดัชนี S&P500 ในไตรมาสแรก ยังเป็นการสิ้นสุดช่วงเวลาการปรับตัวขึ้นติดต่อกันที่ยาวนานที่สุดของไตรมาสแรกในประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท โดยดัชนี S&P500 สามารถดีดตัวขึ้นในไตรมาสแรกของทุกปีนับตั้งแต่ปี 2552 ยกเว้นในปีนี้
นายไรอัน เดทริค นักวิเคราะห์อาวุโสของแอลพีแอล ไฟแนนเชียล กล่าวว่า "ตามสถิติที่ผ่านมา ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมักพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนเม.ย."
เขากล่าวว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ดัชนี S&P500 สามารถปรับตัวขึ้นถึง 9 ครั้งในเดือนเม.ย. และหากพิจารณาย้อนกลับไปถึงปี 2493 ดัชนีบวกขึ้นเฉลี่ย 1.5% ในเดือนดังกล่าว ซึ่งมีเพียงเดือนพ.ย.และธ.ค.เท่านั้นที่ดัชนีทะยานขึ้นมากกว่าเดือนเม.ย.
นายเดทริกยังระบุว่า ปัจจัยทางเทคนิคยังบ่งชี้ว่าดัชนี S&P500 จะดีดตัวขึ้นในเดือนนี้
ขณะเดียวกัน กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐจะเริ่มรายงานผลประกอบการในไตรมาสแรกในวันที่ 13 เม.ย. ซึ่งหากบริษัทจดทะเบียนรายงานกำไรตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในเดือนนี้