หุ้นของบริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) ได้ถูกถอดออกจากดัชนีดาวโจนส์ในวันนี้ หลังจากที่ได้ถูกใช้ในการคำนวณดัชนีมายาวนานกว่า 100 ปี
ทั้งนี้ GE นับเป็นหุ้นกลุ่มแรกสุดที่ได้รับการคำนวณในดัชนีดาวโจนส์ เมื่อมีการก่อตั้งดัชนีในปี 1896 แต่หลังจากนั้น GE ก็ได้ถุกถอดออกจากดัชนีในปี 1898 ก่อนที่จะกลับเข้าไปใหม่ในปี 1899 แต่ก็ถูกถอดอีกครั้งในปี 1901 และกลับเข้าสู่ดัชนีในปี 1907 จนถึงเมื่อวานนี้ โดยได้อยู่ในดัชนีดาวโจนส์มากกว่า 100 ปี ก่อนที่จะถูกถอดออก และแทนที่โดยบริษัทวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านขายยา
ก่อนหน้านี้ GE เคยเป็นหนึ่งในบริษัทใหญ่ที่สุดในสหรัฐ โดยเป็นยักษ์ใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นเจ้าของสื่อใหญ่อย่าง NBC Universal และ GE Capital ซึ่งเป็นบริษัทการเงินขนาดใหญ่ แต่หลังจากนั้น GE ก็ต้องขายธุรกิจทั้ง 2 ออก เนื่องจากประสบภาวะขาดทุนอย่างหนักจากวิกฤตการเงินในปี 2008 ท่ามกลางภาวะการแข่งขันอย่างหนักในตลาด
นอกจากนี้ GE ยังได้ประกาศขายกิจการหลอดไฟ และธุรกิจสร้างทางรถไฟในเวลาต่อมา
GE ซึ่งมีพนักงานราว 300,000 คนทั่วโลก อยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้างบริษัท ซึ่งทำให้มีการขายกิจการบางส่วนออกไป พร้อมกับปรับเปลี่ยนตัวผู้บริหาร ขณะที่ทำการปลดพนักงาน 12,000 คน และประกาศลดการจ่ายเงินปันผลถึง 50% ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความไม่เชื่อมั่นต่ออนาคตของบริษัท และได้เทขายหุ้น GE ออกมาอย่างหนัก จนทำให้ GE เป็นหุ้นที่ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในดัชนีดาวโจนส์นับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยราคาหุ้นทรุดตัวลง 26% ขณะที่มูลค่าตลาดลดลงมากกว่า 50% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
บริษัท S&P Dow Jones Indices ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ S&P Global และเป็นผู้บริหารจัดการดัชนีดาวโจนส์ ระบุว่า การปรับเปลี่ยนหุ้นในการคำนวณดัชนีดาวโจนส์ครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อสะท้อนถึงการขยายตัวของธุรกิจดูแลรักษาสุขภาพ
นายเดวิด บลิทเซอร์ กรรมการผู้จัดการและประธานกรรมการของ S&P Dow Jones Indices กล่าวว่า "GE เป็นสมาชิกดั้งเดิมของดัชนีดาวโจนส์ในปี 1896 และได้เป็นสมาชิกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1907 อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่นั้นมา เศรษฐกิจสหรัฐมีการเปลี่ยนแปลงไป โดยบริษัทผลิตสินค้าเพื่อผู้บริโภค บริษัทการเงิน บริษัทในธุรกิจดูแลรักษาสุขภาพ และบริษัทเทคโนโลยี ต่างก็ก้าวขึ้นมามีบทบาทมากขึ้นในทุกวันนี้ ขณะที่ความสำคัญของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเริ่มลดน้อยลง โดยวอลกรีนส์เป็นเครือข่ายร้านขายยาทั่วประเทศซึ่งจำหน่ายยาตามใบสั่งแพทย์ และยาที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ รวมทั้งเสนอบริการเกี่ยวกับสุขภาพ และสินค้าทั่วไป การเพิ่มวอลกรีนส์ในดัชนีจะทำให้ดาวโจนส์เป็นตัวแทนของภาคธุรกิจดูแลสุขภาพ และผู้บริโภคของเศรษฐกิจสหรัฐได้ดีขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จะทำให้ดัชนีดาวโจนส์เป็นมาตรวัดเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นได้ดีขึ้น"