แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ระบุว่า นักลงทุนถอนเม็ดเงินมากกว่า 2.05 หมื่นล้านดอลลาร์ออกจากตลาดหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ของแบงก์ ออฟ อเมริการะบุว่า กระแสเงินทุนที่มีการไหลออกจากตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วง 1 สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันพุธนี้ แตะระดับสูงสุดเป็นอันดับ 3 ในปีนี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% รวมทั้งจะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 3.25 แสนล้านดอลลาร์ในอัตรา 25% ในไม่ช้า
นอกจากนี้ กระแสเงินทุนที่มีการไหลออกจากตลาดหุ้นสหรัฐอยู่ที่ระดับ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. ขณะที่กระแสเงินทุนที่มีการไหลออกจากตลาดหุ้นยุโรปอยู่ที่ระดับ 2.5 พันล้านดอลลาร์ ส่วนกระแสเงินทุนที่มีการไหลออกจากตลาดเกิดใหม่อยู่ที่ระดับ 1.3 พันล้านดอลลาร์
เมื่อพิจารณาตั้งแต่ต้นปีนี้ ฟันด์โฟลว์ที่ไหลออกจากตลาดหุ้นทั่วโลกแตะระดับ 1.16 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้มีแนวโน้มว่าปีนี้จะเป็นปีที่ย่ำแย่ที่สุดสำหรับกองทุนหุ้นนับตั้งแต่ปี 2559