World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 3, 2019 06:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 31 พ.ค. 2562

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (31 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก ขณะที่ยังคงมีความขัดแย้งด้านการค้ากับจีน ซึ่งอาจจะส่งผลให้สหรัฐเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,815.04 จุด ร่วงลง 354.84 จุด หรือ -1.41% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,752.06 จุด ร่วงลง 36.80 จุด หรือ -1.32% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,453.15 จุด ร่วงลง 114.57 จุด หรือ -1.51%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (31 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก ขณะที่ยังคงทำสงครามการค้ากับจีน ซึ่งอาจจะส่งผลให้สหรัฐเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.81% ปิดที่ 369.06 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,207.63 จุด ลดลง 41.28 จุดหรือ -0.79% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,726.84 จุด ร่วงลง 175.24 จุด หรือ -1.47% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,161.71 จุด ลดลง 56.45 จุด หรือ -0.78%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (31 พ.ค.) โดยถูกกดดันจากการที่สหรัฐประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทั้งหมดจากเม็กซิโกในอัตรา 5% และการที่จีนเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่น่าผิดหวัง ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,161.71 จุด ลดลง 56.45 จุด หรือ -0.78%

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (31 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า ข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโกและจีน อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำด้วย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 18.70 ดอลลาร์ หรือ 1.45% ปิดที่ 1,311.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 7.60 เซนต์ หรือ 0.52% ปิดที่ 14.567 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.1 ดอลลาร์ หรือ 0.01% ปิดที่ 794.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 34.20 ดอลลาร์ หรือ 2.50% ปิดที่ 1,331.50 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงต่อเนื่องเมื่อวันศุกร์ (31 พ.ค.) เนื่องจากราคาน้ำมันถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ดิ่งลง 3.09 ดอลลาร์ หรือ 5.5% ปิดที่ 53.50 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 2.38 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 64.49 ดอลลาร์/บาร์เรล

ในรอบสัปดาห์ ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงเกือบ 8.75% และ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลงมากกว่า 6%

-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (31 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ และการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดจากเม็กซิโกในอัตรา 5% ได้สร้างความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.38% แตะที่ 97.7758 เมื่อวันศุกร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.43 เยน จากระดับ 109.54 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0007 ฟรังก์ จากระดับ 1.0073 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3523 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3509 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1169 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1134 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าแตะที่ระดับ 1.2631 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2609 ดอลลาร์ และ ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6938 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6911 ดอลลาร์สหรัฐ

--ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 24,815.04 จุด ลดลง 354.84 จุด, -1.41%

--ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 2,752.06 จุด ลดลง 36.80 จุด, -1.32%

--ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,453.15 จุด ลดลง 114.57 จุด, -1.51%

--ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,161.71 จุด ลดลง 56.45 จุด, -0.78%

--ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,207.63 จุด ลดลง 41.28 จุด, -0.79%

--ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 11,726.84 จุด ลดลง 175.24 จุด, -1.47%

--ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 39,714.20 จุด ลดลง 117.77 จุด, -0.30%

--ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,117.76 จุด ลดลง 25.24 จุด, -0.80%

--ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,650.76 จุด เพิ่มขึ้น 14.26 จุด, +0.87%

--ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,209.12 จุด เพิ่มขึ้น 105.01 จุด, +1.72%

--ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,901.09 จุด ลดลง 213.79 จุด, -0.79%

--ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 959.88 จุด ลดลง 9.46 จุด, -0.98%

--ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,970.02 จุด เพิ่มขึ้น 133.47 จุด, +1.70%

--ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดวันนี้ที่ 2,898.70 จุด ลดลง 7.11 จุด, -0.24%

--ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,041.74 จุด เพิ่มขึ้น 2.94 จุด, +0.14%

--ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,396.90 จุด เพิ่มขึ้น 4.80 จุด, +0.08%

--ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,601.19 จุด ลดลง 341.34 จุด, -1.63%

--ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,498.49 จุด เพิ่มขึ้น 115.50 จุด, +1.11%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ