ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ก.ค. 2562
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ที่ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยให้ตลาดดีดตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงในช่วงแรก อันเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึง เน็ตฟลิกซ์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,222.97 จุด เพิ่มขึ้น 3.12 จุด หรือ +0.01% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,995.11 จุด เพิ่มขึ้น 10.69 จุด หรือ +0.36% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,207.24 จุด เพิ่มขึ้น 22.04 จุด หรือ +0.27%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีกดดันตลาด หลังจากบริษัทเอสเอพี ซึ่งเป็นบริษัทซอฟท์แวร์ของเยอรมนี เปิดเผยผลกำไรไตรมาส 2/2562 ลดลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังมีรายงานข่าวว่า การเจรจาหยุดชะงักในประเด็นที่เกี่ยวกับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.22% ปิดที่ 386.80 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,550.55 จุด ลดลง 21.16 จุด หรือ -0.38% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,227.85 จุด ลดลง 113.18 จุด หรือ -0.92% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,493.09 จุด ลดลง 42.37 จุด หรือ -0.56%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) เนื่องจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลกดดันหุ้นกลุ่มส่งออก และนักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่หยุดชะงักเกี่ยวกับประเด็นบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,493.09 จุด ลดลง 42.37 จุด หรือ -0.56%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) โดยตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งความกังวลดังกล่าวได้ฉุดสัญญาน้ำมันดิบปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน และยังได้บดบังปัจจัยบวกรายงานข่าวที่ว่า อิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมันในช่องแคบฮอร์มุซก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 1.48 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 55.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.ปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.73 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 61.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.ปีนี้
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) หลังจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับราคาทองคำ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. พิ่มขึ้น 4.80 ดอลลาร์ หรือ 0.34% ปิดที่ 1,428.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 6 ปี หรือนับตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.2556
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 22.7 เซนต์ หรือ 1.42% ปิดที่ 16.198 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 2.80 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 849.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 31.30 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 1,511.90 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ และจากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่า ดอลลาร์มีมูลค่าสูงเกินจริง
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.51 เยน จากระดับ 108.09 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9832 ฟรังก์ จากระดับ 0.9870 ฟรังก์ อย่างไรก็ดี ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3045 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3041 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1266 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1222 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2538 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2436 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7066 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7015 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 27,222.97 จุด เพิ่มขึ้น 3.12 จุด, +0.01%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,995.11 จุด เพิ่มขึ้น 10.69 จุด, +0.36%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 8,207.24 จุด เพิ่มขึ้น 22.04 จุด, +0.27%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,227.85 จุด ลดลง 113.18 จุด, -0.92%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,493.09 จุด ลดลง 42.37 จุด, -0.56%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,550.55 จุด ลดลง 21.16 จุด, -0.38%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 38,897.46 จุด ลดลง 318.18 จุด, -0.81%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,361.05 จุด ลดลง 3.82 จุด, -0.11%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,648.93 จุด ลดลง 8.60 จุด, -0.52%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,403.29 จุด เพิ่มขึ้น 8.68 จุด, +0.14%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 28,461.66 จุด ลดลง 131.51 จุด, -0.46%ดัชนี
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 8,258.05 จุด เพิ่มขึ้น 24.57 จุด, +0.30%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,901.18 จุด ลดลง 30.51 จุด, -1.04%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,066.55 จุด ลดลง 6.37 จุด, -0.31%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,649.10 จุด ลดลง 24.20 จุด, -0.36%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,735.40 จุด ลดลง 28.60 จุด, -0.42%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,799.28 จุด ลดลง 29.20 จุด, -0.27%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 21,046.24 จุด ลดลง 422.94 จุด, -1.97%