เจพีมอร์แกนออกรายงานเตือนนักลงทุนให้ซื้อขายหุ้นด้วยความระมัดระวังในเดือนนี้ และให้รอจนถึงเดือนหน้า ก่อนที่จะคิดกลับเข้าซื้อหุ้น ในตลาด
ทั้งนี้ นายมิสลาฟ มาเทจกา นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส, การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลาง และการชะลอการขึ้นภาษีนำเข้าในการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน จะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นพุ่งขึ้นในเดือนก.ย.
"ถึงแม้เราคิดว่าตลาดจะปรับตัวขึ้นในเดือนนี้ แต่เราไม่เชื่อว่าช่วงขาขึ้นในเดือนนี้จะยาวนานกว่าที่เห็นในเดือนพ.ค. ขณะที่ตลาดจะดีดตัวขึ้นอีกครั้งในเดือนหน้า" นายมาเทจการะบุ
ตลาดหุ้นดิ่งลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve ซึ่งเป็นภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีดีดตัวเหนืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี
นายมาเทจการะบุว่า แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve แต่สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่า ตลาดหุ้นจะไม่สามารถพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ในช่วงหลายเดือนก่อนที่เศรษฐกิจจะเกิดภาวะถดถอย
"เราคิดว่า หลังการปรับฐานในเดือนนี้ ตลาดหุ้นจะพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า" นายมาเทจการะบุในรายงาน