แหล่งข่าวระบุว่า โกลด์แมน แซคส์ และแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ อยู่ในรายชื่อวาณิชธนกิจที่จะทำหน้าที่อันเดอร์ไรท์การเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของบริษัทซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานใหญ่ที่สุดในโลก
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า นอกจากโกลด์แมน แซคส์ และแบงก์ ออฟ อเมริกาแล้ว มอร์แกน สแตนลีย์ และธนาคารเนชั่นแนล คอมเมิร์ซ แบงก์ ออฟ ซาอุดีอาระเบีย เป็นวาณิชธนกิจอีก 2 รายที่จะทำหน้าที่อันเดอร์ไรท์หุ้นดังกล่าว
ทางด้านนายอามิน นาสเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซาอุดี อารามโค กล่าวว่า ทางบริษัทเตรียมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนที่ตลาดหลักทรัพย์ริยาดห์ในไม่ช้า
นอกจากนี้ นายนาสเซอร์ยังยืนยันว่า ทางบริษัทจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าจะเป็นตลาดหลักทรัพย์ใด
สื่อรายงานว่า ซาอุดี อารามโคจะนำหุ้น 1% เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในประเทศก่อนสิ้นปีนี้ และอีก 1% ในปีหน้า
ทางด้านหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า บริษัทซาอุดี อารามโคกำลังพิจารณาที่จะเสนอขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว แทนที่จะเป็นตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ลอนดอน หรือฮ่องกง
การเสนอขายหุ้น IPO ของซาอุดี อารามโค ถือเป็นการทำ IPO ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก โดยทางบริษัทคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้มากถึง 1 แสนล้านดอลลาร์จากการนำหุ้น 5% ของบริษัทออกเสนอขาย
วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า การขายหุ้น IPO ดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรกจะเป็นการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของซาอุดีอาระเบียในปีนี้ และต่อมาจะมีการเสนอขายหุ้นในตลาดต่างประเทศในปี 2563 หรือ 2564
ตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกต่างพากันยื่นข้อเสนอให้ซาอุดี อารามโคนำหุ้นมาจดทะเบียนในตลาดของตน โดยตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน และฮ่องกงถือเป็นตัวเก็งในช่วงแรก แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองจากปัจจัยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนไม่ได้รับเลือก ส่วนความวุ่นวายที่เกิดจากการชุมนุมประท้วงในฮ่องกง ก็ได้ลดความน่าสนใจของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเช่นกัน
นอกจากนี้ บอร์ดบริหารของซาอุดี อารามโคมองว่าการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กจะทำให้บริษัทมีความเสี่ยงทางด้านกฎหมายมากเกินไป เนื่องจากตลาดมีการคุมเข้มด้านการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน และมีกฎระเบียบห้ามบริษัทจดทะเบียนพัวพันกับการเป็นแหล่งเงินทุนสนับสนุนการก่อการร้าย
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ของบริษัท และรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า แม้ว่าตลาดหลักทรัพย์โตเกียวมีแนวโน้มได้รับเลือกในการจำหน่ายหุ้น IPO ของบริษัท แต่ขณะนี้บริษัทยังไม่ได้ตัดสินใจในขั้นสุดท้าย และทุกทางเลือกยังคงมีความเป็นไปได้
แหล่งข่าวระบุว่า เจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ จะคว้าสิทธิในการเป็นที่ปรึกษาหลักในการเสนอขายหุ้น IPO ของบริษัทซาอุดี อารามโค
มอร์แกน สแตนลีย์ ซึ่งเป็นคู่แข่งของเจพีมอร์แกนในการแย่งชิงสิทธิในการเป็นที่ปรึกษาหลักสำหรับการทำ IPO ดังกล่าว ต้องหลุดจากการแข่งขัน เนื่องจากรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทอูเบอร์ มีความไม่พอใจต่อผลงานของมอร์แกน สแตนลีย์ในการทำ IPO ของบริษัทอูเบอร์ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการคาดการณ์ความต้องการของตลาดผิดพลาด จนทำให้ราคาหุ้นอูเบอร์ดิ่งลง 18% ในช่วง 2 วันแรกของการซื้อขายในตลาด และขณะนี้ยังคงมีราคาหุ้นต่ำกว่าราคา IPO ที่ระดับ 45 ดอลลาร์
ในฐานะที่ปรึกษาหลักในการทำ IPO ของบริษัทซาอุดี อารามโค เจพีมอร์แกนจะมีหน้าที่เกี่ยวกับการตัดสินใจหลักๆในการทำ IPO และจะหารือร่วมกับวาณิชธนกิจแห่งอื่นๆเกี่ยวกับการกระจายหุ้นไปยังสถาบันการเงินอื่นๆ
ทั้งนี้ บริษัทซาอุดี อารามโค มีกำไร 1.111 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว โดยมากกว่ากำไรของบริษัทแอปเปิล อิงค์ถึง 2 เท่า ส่งผลให้บริษัทขึ้นแท่นบริษัทที่มีกำไรมากที่สุดในโลก