ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 2 ม.ค. 2563
-- ดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) ขานรับข่าวธนาคารกลางจีนประกาศผ่อนคลายนโยบายการเงิน ด้วยการปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของสถาบันการเงิน (RRR) รวมทั้งความคืบหน้าในการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างคักคัก เนื่องจากบริษัทรายใหญ่หลายแห่งในทั้งสองภาคส่วนนี้มีการลงทุนจำนวนมากในประเทศจีน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย เพื่อจับสัญญาณแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,868.80 จุด พุ่งขึ้น 330.36 จุด หรือ +1.16% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,257.85 จุด เพิ่มขึ้น 27.07 จุด หรือ +0.84% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,092.19 จุด เพิ่มขึ้น 119.58 จุด หรือ +1.33%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นด้านการเงินของจีน และการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐจะลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนในวันที่ 15 ม.ค.นี้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐด้วย โดยดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดวันแรกของปีพุ่งขึ้นกว่า 100 จุด
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.93% ปิดที่ 419.72 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,041.50 จุด เพิ่มขึ้น 63.45 จุด หรือ +1.06%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,385.93 จุด เพิ่มขึ้น 136.92 จุด หรือ +1.03% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,604.30 จุด เพิ่มขึ้น 61.86 จุด หรือ +0.82%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับรัฐบาลจีนผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐประกาศวันลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนในวันที่ 15 ม.ค.นี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,604.30 จุด เพิ่มขึ้น 61.86 จุด หรือ +0.82%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางส่งสัญญาณตึงเครียด หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศส่งทหารจำนวน 750 นายเข้าประจำการในตะวันออกกลาง ภายหลังจากกลุ่มผู้ประท้วงในอิรักได้บุกเข้าสถานทูตสหรัฐประจำกรุงแบกแดด ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 61.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 66.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) เนื่องจากตลาดขานรับธนาคารกลางจีนที่ประกาศผ่อนคลายนโยบายการเงิน ด้วยการปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของสถาบันการเงิน (RRR) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 1528.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 2562
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 12.5 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 18.046 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 7.2 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ 985.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 18.70 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 1,928 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตที่ยังคงขยายตัวในเดือนธ.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย เพื่อจับสัญญาณแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9722 ฟรังก์ จากระดับ 0.9674 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2989 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2983 ดอลลาร์แคนาดา แต่หากเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 108.55 เยน จากระดับ 108.64 เยน
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1168 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1217 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3135 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3238 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6983 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7017 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 28,868.80 จุด เพิ่มขึ้น 330.36 จุด, +1.16%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,257.85 จุด เพิ่มขึ้น 27.07 จุด, +0.84%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 9,092.19 จุด เพิ่มขึ้น 119.58 จุด, +1.33%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,385.93 จุด เพิ่มขึ้น 136.92 จุด, +1.03%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,604.30 จุด เพิ่มขึ้น 61.86 จุด, +0.82%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,041.50 จุด เพิ่มขึ้น 63.45 จุด, +1.06%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 41,626.64 จุด เพิ่มขึ้น 320.62 จุด, +0.78%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,252.00 จุด เพิ่มขึ้น 29.17 จุด, +0.91%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,602.50 จุด เพิ่มขึ้น 13.74 จุด, +0.86%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,283.58 จุด ลดลง 15.96 จุด, -0.25%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 28,543.52 จุด เพิ่มขึ้น 353.77 จุด, +1.25%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,742.53 จุด ลดลง 72.73 จุด, -0.93%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,085.20 จุด เพิ่มขึ้น 35.08 จุด, +1.15%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,175.17 จุด ลดลง 22.50 จุด, -1.02%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,690.60 จุด เพิ่มขึ้น 6.50 จุด, +0.10%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,810.00 จุด เพิ่มขึ้น 7.60 จุด, +0.11%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 12,100.48 จุด เพิ่มขึ้น 103.34 จุด, +0.86%
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวานนี้ (2 ม.ค.) เนื่องในวันหยุด