นายเจเรมี ซีเกล นักวิชาการจากวอร์ตัน ไฟแนนซ์ กล่าวว่า ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มพุ่งแตะระดับ 30,000 จุดในเดือนนี้
อย่างไรก็ดี นายซีเกลเตือนว่าตลาดหุ้นจะเกิดการปรับฐาน หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์พุ่งแตะระดับดังกล่าวได้ไม่นาน
นายซีเกลระบุว่า ระดับ 30,000 จุดถือเป็นระดับแตกหักในช่วงขาขึ้นของดัชนีดาวโจนส์
"ดัชนีไปไกลเกินไป เร็วเกินไป และขณะนี้มีราคาแพงเกินไป" นายซีเกลกล่าว
ขณะนี้ ดัชนีดาวโจนส์อยู่ห่างจากระดับ 30,000 จุดเพียง 2.4% และในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ดาวโจนส์ได้สร้างสถิตินิวไฮถึง 6 ครั้ง
ก่อนหน้านี้ นายซีเกลเคยทำนายอย่างถูกต้องต่อการที่ดัชนีดาวโจนส์จะพุ่งแตะระดับ 20,000 และ 25,000 จุด
อย่างไรก็ดี ในครั้งนี้ นายซีเกลได้เตือนว่าตลาดหุ้นอาจทรุดตัวลง 10%
"เรื่องเล็กๆก็อาจทำให้ตลาดสะดุดได้ เช่น ความผิดหวังต่อผลประกอบการ หรือความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่านที่อาจกลับมาอีก" เขากล่าว
นอกจากนี้ นายซีเกลยังเตือนว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.อาจกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงครั้งใหญ่ต่อตลาด
"มีความไม่แน่นอนอยู่มาก ผมคิดว่าหากพรรคเดโมแครตคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีและในวุฒิสภา ก็จะถือเป็นข่าวร้ายสำหรับตลาดหุ้น เนื่องจากพรรคเดโมแครตระบุว่าจะยกเลิกมาตรการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์" นายซีเกลกล่าว