ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้แสดงความวิตกต่อการทรุดตัวของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ โดยเขากล่าวว่า ตลาดหุ้นจะสามารถฟื้นตัวขึ้นต่อไป แม้มีความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงทรุดตัวลงอย่างหนัก หลังมีการใช้ระบบ circuit breaker เพื่อพักการซื้อขายในช่วงแรก ขณะที่นักลงทุนเกิดความตื่นตระหนกจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศระงับการเดินทางจากประเทศในยุโรปเข้าสู่สหรัฐ
ณ เวลา 20.54 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 21,399.85 จุด ลบ 2,182.52 จุด หรือ 9.27% ส่วนดัชนี S&P 500 อยู่ที่ 2,509.56 จุด ลบ 231.82 จุด หรือ 8.46%
การประกาศใช้ระบบ circuit breaker ในวันนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เมื่อวันจันทร์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กประกาศพักการซื้อขายเป็นเวลา 15 นาที หลังจากเปิดตลาดได้เพียง 5 นาที เนื่องจากดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 1,800 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 ทรุดตัวลง 7% ส่งผลให้มีการใช้ระบบ circuit breaker เพื่อระงับการซื้อขายชั่วคราว
ปธน.ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะระงับการเดินทางจากประเทศในยุโรปทั้งหมด ยกเว้นสหราชอาณาจักร ในช่วง 30 วันข้างหน้า โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนวันพรุ่งนี้
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้ตำหนิสหภาพยุโรป (EU) ที่ไม่ดำเนินมาตรการควบคุมการเดินทางจากจีนตั้งแต่ช่วงที่ไวรัสโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด
ทางด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์ระบุว่า ไวรัสโควิด-19 ได้เข้าสู่ภาวะแพร่ระบาดไปทั่วโลก หลังมีการลุกลามไปยังหลายประเทศในภูมิภาคต่างๆ
"ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนได้เพิ่มขึ้นถึง 13 เท่า และจำนวนประเทศที่ติดเชื้อได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ส่วนในช่วงหลายวันและหลายสัปดาห์ข้างหน้า เราคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต และจำนวนประเทศที่ติดเชื้อจะเพิ่มมากขึ้นอีก" นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO กล่าว
นอกจากนี้ นายแพทย์ทีโดรสยังได้กล่าวตำหนิผู้นำของหลายประเทศที่ไม่ได้ดำเนินการอย่างเฉียบขาดและรวดเร็วเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส