ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 พ.ค. 2563
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่เพื่อตอบโต้จีนที่เป็นต้นตอของไวรัสโควิด-19 ซึ่งแพร่ระบาด และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,723.69 จุด ลดลง 622.03 จุด หรือ -2.55%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,830.71 จุด ลดลง 81.72 จุด หรือ -2.81% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,604.95 จุด ลดลง 284.60 จุด หรือ -3.20%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ค.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากตลาดหุ้นเยอรมนี, ฝรั่งเศส, อิตาลี และสเปน ปิดทำการวันแรงงาน ขณะที่ตลาดถูกกดดันจากแนวโน้มที่จะเกิดความตึงเครียดด้านการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่า สหรัฐอาจสั่งเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ เพื่อตอบโต้จีนที่เป็นต้นตอของวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากเมืองอู่ฮั่นของจีน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.78% ปิดที่ 337.39 จุด
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ค.) โดยบรรยากาศการซื้อขายได้รับผลกระทบจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐขู่ที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนคร้งใหม่ อันเนื่องมาจากความไม่พอใจเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเริ่มขึ้นในประเทศจีน นอกจากนี้ การร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดลงด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,763.06 จุด ลดลง 138.15 จุด หรือ -2.34%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ค.) และบวกขึ้นรายสัปดาห์เป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มโอเปกและพันธมิตรได้เริ่มปรับลดการผลิตน้ำมันลงมากเป็นประวัติการณ์ เพื่อรับมือกับภาวะน้ำมันล้นตลาดซึ่งเกิดจากผลกระทบของวิกฤตโควิด-19
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. บวก 94 เซนต์ หรือ 5% ปิดที่ 19.78 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 16.8% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 26.44 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวขึ้น 6.6% ในรอบสัปดาห์นี้
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ค.) โดยกลับมายืนเหนือระดับ 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์ได้ เนื่องจากความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ได้กระตุ้นให้นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะที่เป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 6.7 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,700.9 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำยังคงติดลบราว 2%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 3.5 เซนต์ หรือ 0.23% ปิดที่ 14.938 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 39.1 ดอลลาร์ หรือ 4.81% ปิดที่ 773.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 68.20 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 1,887.80 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินเสี่ยงต่างๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะที่เป็นสกุลเงินปลอดภัย และขายสกุลเงินเสี่ยง อาทิ ปอนด์ และดอลลาร์ออสเตรเลีย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มขึ้น เพื่อตอบโต้ที่จีนเป็นต้นตอของไวรัสโควิด-19 ซึ่งแพร่ระบาด และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.06% สู่ระดับ 99.0866 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4074 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3922 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.83 เยน จากระดับ 107.20 เยน และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส แตะที่ระดับ 0.9617 ฟรังก์ จากระดับ 0.9655 ฟรังก์
เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2484 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2599 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6410 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6523 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0975 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0951 ดอลลาร์
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 23,723.69 จุด ลดลง 622.03 จุด, -2.55%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 2,830.71 จุด ลดลง 81.72 จุด, -2.81%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 8,604.95 จุด ลดลง 284.60 จุด, -3.20%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,763.06 จุด ลดลง 138.15 จุด, -2.34%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,619.35 จุด ลดลง 574.34 จุด, -2.84%