ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 พ.ค. 2563
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนส่งคำสั่งขายเข้ามาในช่วงท้ายตลาด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ เปิดเผยว่า เขาจะประกาศนโยบายฉบับใหม่ของสหรัฐที่จะดำเนินการกับจีนในวันนี้ เนื่องจากไม่พอใจที่จีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ หลังจากปธน.ทรัมป์ลงนามในคำสั่งทบทวนกฎหมายคุ้มครองบริษัทโซเชียลมีเดีย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,400.64 จุด ลดลง 147.63 จุด หรือ -0.58% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,029.73 จุด ลดลง 6.40 จุด หรือ -0.21% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,368.99 จุด ลดลง 43.37 จุด หรือ -0.46%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) โดยบวกขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเปิดดำเนินการธุรกิจอีกครั้งหลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศต่างๆ รวมถึงการจัดตั้งกองทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของยูโรโซนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.64% ปิดที่ 355.47 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 11,781.13 จุด เพิ่มขึ้น 123.44 จุด หรือ +1.06%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,771.39 จุด เพิ่มขึ้น 82.65 จุด หรือ +1.76% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,218.79 จุด เพิ่มขึ้น 74.54 จุด หรือ +1.21%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากธุรกิจต่างๆ ได้กลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งหลังจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,218.79 จุด เพิ่มขึ้น 74.54 จุด หรือ +1.21%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินปรับตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้อมูลดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันปิดในแดนบวก แม้สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นเหนือความคาดหมายก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 2.7% ปิดที่ 33.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 35.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างสหรัฐและจีนได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยรายงานล่าสุดระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศนโยบายฉบับใหม่ที่จะดำเนินการกับจีนในวันนี้ เนื่องจากไม่พอใจที่จีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงในฮ่องกง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.5 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ 1,728.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 1.18% ปิดที่ 17.967 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 10 ดอลลาร์ หรือ 1.14% ปิดที่ 868.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 31.90 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 1.946.50 ดอลลาร์/ออนซ์
-- สกุลเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) ขานรับข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ในการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟู เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนสกุลดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาหลายรายการ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐที่หดตัวลงในไตรมาสแรกปีนี้
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1089 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0989 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2340 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2253 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.6658 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6605 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.64 เยน จากระดับ 107.70 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9634 ฟรังก์ จากระดับ 0.9688 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3760 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3779 ดอลลาร์แคนาดา
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 25,400.64 จุด ลดลง 147.63 จุด, -0.58%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,029.73 จุด ลดลง 6.40 จุด, -0.21%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 9,368.99 จุด ลดลง 43.37 จุด, -0.46%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 11,781.13 จุด เพิ่มขึ้น 123.44 จุด, +1.06%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,218.79 จุด เพิ่มขึ้น 74.54 จุด, +1.21%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,771.39 จุด เพิ่มขึ้น 82.65 จุด, +1.76%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 32,200.59 จุด เพิ่มขึ้น 595.37 จุด, +1.88%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,515.24 จุด ลดลง 4.24 จุด, -0.17%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,457.50 จุด เพิ่มขึ้น 5.77 จุด, +0.40%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,716.19 จุด เพิ่มขึ้น 74.63 จุด, +1.61%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,132.76 จุด ลดลง 168.60 จุด, -0.72%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 5,570.22 จุด เพิ่มขึ้น 46.44 จุด, +0.84%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,846.22 จุด เพิ่มขึ้น 9.42 จุด, +0.33%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,028.54 จุด ลดลง 2.66 จุด, -0.13%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 21,916.31 จุด เพิ่มขึ้น 497.08 จุด, +2.32%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,944.19 จุด ลดลง 70.47 จุด, -0.64%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,851.10 จุด เพิ่มขึ้น 76.10 จุด, +1.32%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,957.80 จุด เพิ่มขึ้น 72.90 จุด, +1.24%