หุ้น"เทสลา"ร่วงต่อ หลังดิ่ง 21% เมื่อคืนนี้ ผิดหวังถูกเมินคำนวณ S&P500

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 9, 2020 14:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท S&P Dow Jones Indices LLC ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์ก ได้ทำการปรับน้ำหนักหุ้นที่คำนวณในดัชนี S&P500 โดยไม่ได้นำหุ้นบริษัทเทสลา (Tesla) เข้าร่วมคำนวณในดัชนีดังกล่าว ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้นเทสลาทรุดตัวลงกว่า 21% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) ซึ่งเป็นการร่วงลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องในการซื้อขายนอกเวลาทำการ โดย ณ เวลา 13.55 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ ราคาหุ้นเทสลา ร่วงลงอีก 1.84%

ในการปรับน้ำหนักครั้งนี้ S&P Dow Jones Indices LLC ได้นำหุ้น Etsy ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซ, หุ้น Catalent ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ และหุ้น Teradyne ซึ่งเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติ เข้าคำนวณในดัชนี S&P500

นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนเทขายหุ้นเทสลาเมื่อคืนนี้ เนื่องจากรู้สึกผิดหวังที่หุ้นเทสลาไม่ได้ถูกนำไปคำนวณในดัชนี S&P500 ตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ แม้บริษัทมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ราคาหุ้นเทสลายังถูกกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า เจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) บริษัทผลิตรถยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ประกาศแผนซื้อหุ้นของบริษัทนิโคลา คอร์ป ผู้ผลิตรถบรรทุกไฟฟ้าของสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการท้าชนเทสลา เนื่องจากรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Nikola Badger ของนิโคลา ถือเป็นคู่แข่งของรถบรรทุกรุ่น Cybertruck ของเทสลาที่เพิ่งเรียกเสียงฮือฮาไปเมื่อไม่นานมานี้

รายงานระบุว่า นักลงทุนได้ทุ่มซื้อหุ้นเทสลาในช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจากคาดการณ์ว่าหุ้นเทสลาจะถูกนำไปคำนวณในดัชนี S&P500 หลังจากบริษัทสามารถทำกำไรได้ในช่วงไม่กี่ไตรมาสที่ผ่านมา แม้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยบริษัทสามารถขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้กว่า 179,000 คันในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งมากกว่ายอดขายของคู่แข่งทุกบริษัทรวมกัน

เมื่อไม่นานมานี้ Billionaires Index ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กบ่งชี้ว่า นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยกว่านายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซึอีโอของบริษัทเฟซบุ๊ก อิงค์ เนื่องจากราคาหุ้นเทสลาทะยานขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ หลังจากที่ทางบริษัทได้ทำการแตกหุ้น โดยความมั่งคั่งของนายมัสก์มีมูลค่าสูงถึง 1.154 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับนายซัคเคอร์เบิร์กซึ่งอยู่ที่ 1.108 แสนล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ