ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 ต.ค. 2563
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (30 ต.ค.) และปรับตัวลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ต่างๆ หลังจากการเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ และความกังวลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,501.60 จุด ลดลง 157.51 จุด หรือ -0.59%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,269.96 จุด ลดลง 40.15 จุด หรือ -1.21% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,911.59 จุด ลดลง 274.00 จุด หรือ -2.45%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (30 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป แต่ตลาดยังคงปรับตัวลงมากที่สุดในรอบสัปดาห์นี้และในรอบเดือนต.ค.นับตั้งแต่ถูกเทขายอย่างหนักในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าการล็อกดาวน์ครั้งใหม่เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.18% ปิดที่ 342.36 จุด
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,594.24 จุด เพิ่มขึ้น 24.57 จุด หรือ +0.54% ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 11,556.48 จุด ลดลง 41.59 จุด หรือ +0.36%, และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,577.27 จุด ลดลง 4.48 จุด หรือ -0.08%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อวันศุกร์ (30 ต.ค.) และร่วงลงรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่ดิ่งลงอย่างหนักในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า การแพร่ระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,577.27 จุด ลดลง 4.48 จุด หรือ -0.08% และร่วงลง 4.9% ในเดือนต.ค.
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (30 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันออกมาท่ามกลางความวิตกว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นทั้งในสหรัฐและยุโรปจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 38 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 35.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยในรอบสัปดาหนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงมากกว่า 10% และทั้งเดือนต.ค. ร่วงลง 11%
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 37.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. โดยในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลงมากกว่า 10% และทั้งเดือนต.ค.ร่วงลง 8.5%
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (30 ต.ค.) โดยดีดตัวขึ้นทางเทคนิค หลังจากร่วงลงในช่วงที่ผ่านมาสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์ และสัญญาทองยังได้แรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดเพิ่มขึ้นทั่วโลก แต่สัญญาทองก็ยังคงปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.90 ดอลลาร์ หรือ 0.64% ปิดที่ 1,879.90 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำ ลดลง 1.3% ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกัน 3 สัปดาห์ และในรอบเดือนต.ค. ลดลง 0.8%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 28.6 เซนต์ หรือ 1.22% ปิดที่ 23.646 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.1 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 848.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 18.70 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 2,217.20 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (30 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะที่เป็นสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดเพิ่มขึ้นทั่วโลก และดอลลาร์ยังได้แรงหนุน หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดด้วย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.10% แตะที่ระดับ 94.0412
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 104.67 เยน จากระดับ 104.66 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9170 ฟรังก์ จากระดับ 0.9158 ฟรังก์ แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3317 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3324 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1644 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1671 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2956 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2927 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าสู่ระดับ 0.7028 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7026 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 26,501.60 จุด ลดลง 157.51 จุด, -0.59%,
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,269.96 จุด ลดลง 40.15 จุด, -1.21%
ดัชนี Nasdaq ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 10,911.59 จุด ลดลง 274.00 จุด, -2.45%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,594.24 จุด เพิ่มขึ้น 24.57 จุด, +0.54%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 11,556.48 จุด ลดลง 41.59 จุด, +0.36%,
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,577.27 จุด ลดลง 4.48 จุด, -0.08%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 39,614.07 ลบ 135.78 จุด หรือ 0.34%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,423.84 จุด ลดลง 26.84 จุด, -1.10%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,466.89 จุด ลดลง 28.31 จุด, -1.89%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,128.23 จุด ลดลง 15.82จุด, -0.31%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,107.42 จุด ลดลง 479.18 จุด, -1.95%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,224.53 จุด ลดลง 48.19 จุด, -1.47%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,267.15 จุด ลดลง 59.52 จุด, -2.56%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,927.60 จุด ลดลง 32.70 จุด หรือ -0.55%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,133.20 จุด ลดลง 34.80 จุด, -0.56%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 22,977.13 จุด ลดลง 354.81 จุด, -1.52%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 12,546.34 จุด ลดลง 116.57 จุด, -0.92%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,324.00 จุด เพิ่มขึ้น 74.61 จุด, +1.19%