"เจพีมอร์แกน" ชี้ตลาดหุ้นไทยปีหน้ามีลุ้นพุ่งแรง 20% ราคายังถูก-มีโอกาสโต

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 4, 2020 15:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่มีแนวโน้มทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 20% ในปี 2564 หลังจากที่นักลงทุนไม่ค่อยให้ความสนใจที่จะลงทุนในตลาดหุ้นกลุ่มนี้ในปีนี้ ขณะเดียวกันเจพีมอร์แกนได้กล่าวถึงตลาดหุ้นไทยว่า เป็นตลาดที่ยังมีโอกาสเติบโตและน่าลงทุน

จอยซ์ ชาง หัวหน้าฝ่ายวิจัยของเจพีมอร์แกนเปิดเผยกับรายการ "Street Signs Asia" ของสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า "ตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ปรับตัวล้าหลังอย่างมาก ขณะที่เราเห็นตลาดอื่นๆ ทะยานขึ้น"

ทั้งนี้ เจพีมอร์แกนมีมุมมองในการลงทุนปานกลางในตลาดหุ้นจีนขณะนี้ แต่ได้ปรับเพิ่มมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่เนื่องจากยังมีมูลค่าที่น่าดึงดูดใจ และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทย, บราซิล, อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ ซึ่งอุตสาหกรรมในหลายภาคส่วนของประเทศเหล่านี้ยังมีโอกาสฟื้นตัว อาทิ อุตสาหกรรมสินค้าผู้บริโภค, บันเทิง และสันทนาการ

การแสดงมุมมองเชิงบวกของเจพีมอร์แกนที่มีต่อตลาดหุ้นไทยนั้น สอดคล้องกับที่ดีลอยท์ได้รายงานเมื่อไม่นานมานี้ว่า ประเทศไทยครองส่วนแบ่งตลาดในการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีนี้ โดยไทยมีมูลค่าการทำ IPO คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 60% ของมูลค่าการทำ IPO ทั้งหมดในภูมิภาค

ดีลอยท์ระบุว่า ไทยสามารถครองส่วนแบ่งตลาด IPO ได้สูงสุด แม้ว่าเศรษฐกิจไทยเป็น 1 ในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ตาม

นับตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงวันที่ 15 พ.ย. ประเทศไทยมีบริษัทที่ทำ IPO จำนวนสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 23 ราย ซึ่งแม้ว่าลดลงจาก 34 รายของทั้งปี 2562 แต่จนถึงขณะนี้ ไทยสามารถระดมทุนจากตลาด IPO ในปีนี้ได้เป็นวงเงินสูงถึง 3.94 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าระดับ 3 พันล้านดอลลาร์ของปีที่แล้ว

นอกจากนี้ ดีลอยท์ได้ทำการเปรียบเทียบระหว่างไทยและสิงคโปร์ โดยระบุว่า ไทยมีแนวโน้มแซงหน้าสิงคโปร์ขึ้นครองอันดับหนึ่งตลาด IPO ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน โดยในปีนี้ สิงคโปร์มีบริษัทที่ทำ IPO เพียง 8 แห่ง และสามารถระดมทุนได้เพียง 852 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ เมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งมีบริษัทจดทะเบียนใหม่ 11 แห่ง และสามารถระดมทุนได้ 2.26 พันล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ