ราคาหุ้น GameStop ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายวิดีโอเกมชื่อดังในสหรัฐ ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงกว่า 30% แตะระดับ 158 ดอลลาร์ ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันนี้ หลังจากปิดตลาดทรุดตัวลง 30.77% เมื่อคืนนี้
หากราคาหุ้น GameStop เปิดตลาดที่ 158 ดอลลาร์ในวันนี้ ก็จะส่งผลให้หุ้นดังกล่าวดิ่งลงราว 60% ในเวลาเพียง 2 วัน หลังจากที่ได้พุ่งขึ้นอย่างมากก่อนหน้านี้
การดิ่งลงของราคาหุ้น GameStop เกิดจากการที่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้หันเป้าหมายไปสู่โลหะเงินเพื่อดันราคาขึ้น หลังจากที่ได้ใช้กลยุทธ์ในลักษณะเดียวกันนี้กับหุ้น GameStop เพื่อสั่งสอนกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ที่มักเก็งกำไรด้วยการขายชอร์ตในตลาด
การที่นักลงทุนรายย่อยแห่ซื้อโลหะเงิน ส่งผลให้ราคาสัญญาโลหะเงินพุ่งขึ้นเหนือระดับ 30 ดอลลาร์วานนี้ แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี
ทั้งนี้ ราคาหุ้น GameStop พุ่งขึ้น 400% ในสัปดาห์ที่แล้ว และทะยานขึ้น 1,625% ในเดือนม.ค. จากการที่นักลงทุนรายย่อยในห้อง WallStreetBets ซึ่งมีสมาชิกกว่า 7.6 ล้านรายบนเว็บบอร์ด Reddit ได้เล็งเป้าหมายที่จะผลักดันราคาหุ้น GameStop ให้สูงขึ้นเพื่อกดดันให้เฮดจ์ฟันด์ต้องกลับเข้าซื้อคืนหุ้นดังกล่าวเพื่อตัดขาดทุน หลังจากที่ได้ขายชอร์ตก่อนหน้านี้ โดยเก็งว่า GameStop จะต้องปิดกิจการในไม่ช้า
การพุ่งขึ้นของราคาหุ้น GameStop ส่งผลให้เฮดจ์ฟันด์ประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก โดยคาดว่าสูงถึง 19,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 570,000 ล้านบาท
หากหุ้น GameStop ยังคงพุ่งขึ้นต่อไป ก็จะทำให้เฮดจ์ฟันด์พากันเทขายหุ้นอื่นในตลาดเพื่อระดมเงินมาชดเชยผลขาดทุนจากการเก็งกำไรใน GameStop
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลกันว่า ปรากฎการณ์ GameStop เป็นการส่งสัญญาณถึงการเกิดภาวะฟองสบู่ในตลาด ซึ่งหากฟองสบู่แตก ก็จะสร้างความตื่นตระหนก และกระทบนักลงทุนรายย่อยอย่างหนัก
ความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดเนื่องจากการทะยานขึ้นของหุ้น GameStop ได้ทำให้คณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐประกาศจัดการไต่สวนเกี่ยวกับภาวะผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดซึ่งเกี่ยวข้องกับการปั่นหุ้น GameStop และหุ้นตัวอื่นๆ โดยการไต่สวนจะมีขึ้นในวันที่ 18 ก.พ.
นอกจากนี้ ทีมเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งรวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ก็กำลังจับตาความผันผวนในตลาดหุ้นสหรัฐอย่างใกล้ชิดด้วย