กิลถือเป็นผู้ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับมวลหมู่นักลงทุนรายย่อยในห้อง WallStreetBets เพื่อให้รวมพลังสู้กับเฮดจ์ฟันด์ จนทำให้ราคาหุ้น GameStop พุ่งขึ้นถึง 400% ในสัปดาห์ที่แล้ว
กิลเปิดเผยว่า เขาได้ถือหุ้น GameStop ถึง 50,000 หุ้น และคอลล์ออปชั่นจำนวน 500 ออปชั่นนับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยขณะที่ราคาหุ้นพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ก็ได้ทำให้ผลตอบแทนจากการถือหุ้น GameStop ของเขาสูงถึงกว่า 2,000% หรือราว 33 ล้านดอลลาร์ แต่เมื่อราคาหุ้นดิ่งลงวานนี้ ทำให้เขาขาดทุนทันที 13.6 ล้านดอลลาร์ หลังจากขาดทุนมากกว่า 5 ล้านดอลลาร์เมื่อวันจันทร์
ราคาหุ้น GameStop พลิกดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากที่นักลงทุนรายย่อยในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังคงยืนยันที่จะสู้กับเฮดจ์ฟันด์ต่อไป ถึงแม้ราคาหุ้นดังกล่าวได้ทรุดตัวลงอย่างมากวานนี้ แม้มีความพยายามก่อนหน้านี้ที่จะผลักดันราคาหุ้นให้สูงขึ้นเพื่อให้เฮดจ์ฟันด์ประสบภาวะขาดทุน
หุ้น GameStop พุ่งขึ้น 14% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนรายย่อยในห้อง WallStreetBets ต่างเรียกร้องให้สมาชิกแต่ละคนยังคงถือหุ้นไว้ อย่าเพิ่งขายออกไป
"งานนี้จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อเราจับมือกัน ให้เราซื้อเมื่อราคาหุ้นตกและถือเอาไว้ ตอนนี้ขบวนการของเรายังไม่จบ" สมาชิกรายหนึ่งโพสต์ในเว็บบอร์ด Reddit
"เราจะไม่แยกจากกัน" สมาชิกอีกรายโพสต์
ทั้งนี้ ราคาหุ้น GameStop ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายวิดีโอเกมชื่อดังในสหรัฐ ดิ่งลงถึง 60% สู่ระดับ 90 ดอลลาร์ขณะปิดตลาดวานนี้ หลังจากร่วงลง 30% เมื่อวันจันทร์ ส่งผลให้ขณะนี้ราคาหุ้น GameStop ทรุดตัวลงมากกว่า 70% นับตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว
ราคาหุ้น GameStop พุ่งขึ้น 400% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้แตะระดับ 470 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และทะยานขึ้น 1,625% ในเดือนม.ค. จากการที่นักลงทุนรายย่อยในห้อง WallStreetBets เล็งเป้าหมายที่จะผลักดันราคาหุ้น GameStop ให้สูงขึ้นเพื่อกดดันให้เฮดจ์ฟันด์ต้องกลับเข้าซื้อคืนหุ้นดังกล่าวเพื่อตัดขาดทุน หลังจากที่ได้ขายชอร์ตก่อนหน้านี้ โดยเก็งว่า GameStop จะต้องปิดกิจการในไม่ช้า
การพุ่งขึ้นของราคาหุ้น GameStop ส่งผลให้เฮดจ์ฟันด์ประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก โดยคาดว่าสูงถึง 19,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 570,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี การกลับมาดิ่งลงของราคาหุ้น GameStop ก็ได้ทำให้นักลงทุนรายย่อยที่ถอนตัวออกมาไม่ทัน ประสบภาวะขาดทุนเช่นกัน
นอกจากนี้ นักลงทุนรายย่อยเหล่านี้ยังประสบความล้มเหลวในการปั่นราคาโลหะเงิน หลังจาก Chicago Mercantile Exchange (CME) ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และสัญญาฟิวเจอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศขึ้นอัตรา maintenance margin เพื่อสกัดการปั่นราคาของกลุ่มนักลงทุนดังกล่าว
ราคาสัญญาโลหะเงินพุ่งขึ้นกว่า 11% ทะยานขึ้นเหนือระดับ 30 ดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีเมื่อวันจันทร์ หลังจากที่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้หันเข้าปั่นราคาโลหะเงินเพื่อกดดันให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์เข้าซื้อคืนสัญญาเพื่อตัดขาดทุน หลังจากที่ได้ขายชอร์ตก่อนหน้านี้ โดยเก็งว่าราคาโลหะเงินมีแนวโน้มในช่วงขาลงต่อไป
อย่างไรก็ดี หลังจากที่ CME ประกาศปรับอัตรา maintenance margin สำหรับสัญญา Comex 5000 Silver Futures โดยเพิ่มขึ้น 17.9% ก็ได้ทำให้สัญญาโลหะเงินดิ่งลง 10.25% ปิดที่ 26.402 ดอลลาร์/ออนซ์วานนี้
นักวิเคราะห์ระบุว่า เนื่องจากตลาดโลหะเงินมีขนาดใหญ่มากจึงเป็นเรื่องยากที่นักลงทุนจะสามารถเข้ามาผลักดันราคาในตลาด เมื่อเทียบกับการปั่นราคาหุ้นเพียงตัวเดียวในตลาด
นอกจากนี้ การทรุดตัวของราคาหุ้น GameStop บ่งชี้ว่าเฮดจ์ฟันด์ได้ปิดสถานะขายชอร์ตหุ้นดังกล่าวแล้ว
นายนีล วิลสัน นักวิเคราะห์จาก Markets.com กล่าวว่า "ราคาหุ้น GameStop จะดิ่งลงแตะ 10 ดอลลาร์ ไม่ช้าก็เร็ว ทันทีที่ความบ้าคลั่งนี้ยุติลง"
ทั้งนี้ ราคาหุ้น GameStop มีการซื้อขายที่ระดับเพียง 3.25 ดอลลาร์/หุ้นในปีที่แล้ว