ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 11 มิ.ย. 2564
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (11 มิ.ย.) และดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ลดลงซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น แม้นักลงทุนยังคงกังวลกับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐก็ตาม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,479.60 จุด เพิ่มขึ้น 13.36 จุด หรือ +0.039%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,247.44 จุด เพิ่มขึ้น 8.26 จุด หรือ +0.19% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,069.42 จุด เพิ่มขึ้น 49.09 จุด หรือ +0.35%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (11 มิ.ย.) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าบรรดาธนาคารกลางรายใหญ่จะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไป แม้มีสัญญาณเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นก็ตาม
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 457.51 จุด เพิ่มขึ้น 2.95 จุด หรือ +0.65%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,600.66 จุด เพิ่มขึ้น 54.17 จุด หรือ +0.83%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,693.27 จุด เพิ่มขึ้น 122.05 จุด หรือ +0.78% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,134.06 จุด เพิ่มขึ้น 45.88 จุด หรือ +0.65%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (11 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มการเงินที่ปรับตัวขึ้น หลังอังกฤษเปิดเผยข้อมูลผลผลิตทางเศรษฐกิจภายในประเทศพุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตอกย้ำมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจได้ฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้นหลังจากทรุดตัวลงเพราะโรคโควิด-19 ระบาดในปีที่ผ่านมา
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,134.06 จุด เพิ่มขึ้น 45.88 จุด หรือ +0.65% และปรับตัวขึ้น 0.95% ในรอบสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเปอร์เซนต์มากที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 7 พ.ค.
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (11 มิ.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ขานรับสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะกลับคืนสู่ระดับก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาดได้ภายในสิ้นปีหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 70.91 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2561 และเพิ่มขึ้นเกือบ 1.9% ในรอบสัปดาห์นี้ โดยเป็นการปรับตัวขึ้นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 72.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2562 และปรับตัวขึ้น 1.1% ในรอบสัปดาห์นี้
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ ( 11 มิ.ย.) ที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ แรงขายทำกำไรถ่วงราคาทองคำลงด้วย หลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นติดต่อกันหลายวันจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 16.8 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ 1,879.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย. และปรับตัวลง 0.7% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 11.5 เซนต์ หรือ 0.41% ปิดที่ 28.146 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 5.1 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 1,151.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 3.10 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 2,780.80 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (11 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ หลังจากที่เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.53% แตะที่ 90.5547 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.71 เยน จากระดับ 109.41 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8963 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.8948 ฟรังก์สวิส และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2167 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2088 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2103 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2171 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.4107 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4167 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7702 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7754 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 34,479.60 จุด เพิ่มขึ้น 13.36 จุด, +0.039%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,247.44 จุด เพิ่มขึ้น 8.26 จุด, +0.19%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 14,069.42 จุด เพิ่มขึ้น 49.09 จุด, +0.35%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,134.06 จุด เพิ่มขึ้น 45.88 จุด, +0.65%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,600.66 จุด เพิ่มขึ้น 54.17 จุด, +0.83%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,693.27 จุด เพิ่มขึ้น 122.05 จุด, +0.78%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 52,474.76 จุด เพิ่มขึ้น 174.29 จุด, +0.33%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,095.50 จุด ลดลง 12.04 จุด, -0.20%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,575.16 จุด ลดลง 4.74 จุด, -0.30%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,907.79 จุด เพิ่มขึ้น 32.08 จุด, +0.47%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,157.97 จุด ลดลง 4.53 จุด, -0.14%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 28,842.13 จุด เพิ่มขึ้น 103.25 จุด หรือ +0.36%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,589.75 จุด ลดลง 21.11 จุด, -0.58%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 17,213.52 จุด เพิ่มขึ้น 54.30 จุด, +0.32%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่3,249.32 จุด เพิ่มขึ้น 24.68 จุด, +0.77%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 28,948.73 จุด ลดลง 9.83 จุด, -0.03%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,312.30 จุด เพิ่มขึ้น 9.80 จุด, +0.13%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 7,577.20 จุด เพิ่มขึ้น 18.40 จุด, +0.24%