สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ได้แจ้งให้บรรดาบริษัทโบรกเกอร์ว่า จีนจะอนุญาตให้บริษัทของจีนเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหุ้นสหรัฐได้ ตราบใดที่บริษัทเหล่านี้ดำเนินการตามข้อกำหนดว่าด้วยการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
แหล่งข่าวใน CSRC เปิดเผยว่า การนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดต่างประเทศสามารถดำเนินการโดยใช้โครงสร้างที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ ซึ่งหมายถึงโครงสร้างที่อนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นของบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐ
ทั้งนี้ CSRC ตระหนักว่า โครงสร้างดังกล่าวถือเป็นแนวทางที่จะช่วยให้บริษัทจีนสามารถดึงดูดเงินทุนจากต่างชาติ แต่ก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยนหากมีความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า นายฟ่าน ซิงไห่ รองประธาน CSRC ได้จัดการประชุมร่วมกับบรรดาผู้บริหารธนาคารรายใหญ่ระดับโลกเมื่อคืนวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะระงับกระแสความตื่นตระหนกในตลาดการเงิน
การประชุมทางออนไลน์เมื่อคืนวานนี้ได้จัดขึ้น หลังจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นในบริษัทต่างๆของจีนในสัปดาห์นี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลหลังจากรัฐบาลจีนประกาศกฎใหม่เมื่อวันที่ 23 ก.ค. โดยจะสั่งห้ามการเรียนกวดวิชาเพื่อแสวงหาผลกำไรในวิชาหลักของโรงเรียน เพื่อลดภาระทางการเงินให้กับผู้ปกครอง นอกจากนี้ยังสั่งจำกัดการลงทุนจากต่างประเทศในภาคธุรกิจดังกล่าว ทั้งในรูปแบบการควบรวมกิจการ การซื้อกิจการ หรือการซื้อแฟรนไชส์ ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่า ธุรกิจดูแลสุขภาพจะกลายเป็นเป้าหมายต่อไปของรัฐบาลจีนในการปฏิรูปตลาด โดยนายหมิง เหลียว หุ้นส่วนก่อตั้งของ Prospect Avenue Capital ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนในกรุงปักกิ่งกล่าวว่า "อสังหาริมทรัพย์, การศึกษา และการดูแลสุขภาพเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ 3 กลุ่ม และรัฐบาลจะต้องจัดการกับกลุ่มธุรกิจเหล่านี้อย่างที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้"
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทางการจีนในครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า รัฐบาลจีนเริ่มวิตกกังวลเกี่ยวกับการทุบขายหุ้นในตลาด ซึ่งส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นจีนดิ่งลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา โดยหุ้นกลุ่มดูแลสุขภาพได้ถูกเทขายออกมาอย่างหนัก ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มดูแลสุขภาพของตลาดหุ้นจีนร่วงลง 13% แล้วนับตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยปรับตัวลงตามหุ้นกลุ่มการศึกษาของจีนที่ร่วงลงราว 20%