รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศมาตรการริเริ่มหลายประการในวันนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นตลาดหุ้นภายในประเทศให้แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งมาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการร่วมลงทุนในกองทุนใหม่เพื่อสนับสนุนบริษัทต่างๆ ที่มีแนวโน้มการเติบโตในระดับสูง
กองทุนใหม่นี้จะจัดตั้งขึ้นร่วมกับบริษัทเทมาเส็กซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ โดยจะมีเงินทุนเริ่มต้นมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อช่วยเหลือบริษัทต่างๆ ในการระดมทุนผ่านการจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ไม่ว่าจะเป็นการจดทะเบียนในกระดานหลัก กระดานรอง หรือทั้งสองกระดาน
สำหรับมาตรการริเริ่มที่รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศในวันนี้ได้แก่
- หน่วยงานด้านการลงทุนของคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสิงคโปร์มีแผนที่จะจัดตั้งกองทุนใหม่ เพื่อเข้าลงทุนในบริษัทที่มีแนวโน้มเติบโตดีและมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ โดยการลงทุนเริ่มต้นจะอยู่ที่ 500 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์
- ธนาคารกลางสิงคโปร์จะเพิ่มเงินช่วยเหลือเพื่อช่วยบริษัทต่างๆ ในเรื่องค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียน
- ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์จะช่วยเหลือบริษัทที่มีอัตราการเติบโตสูงให้สามารถระดมทุนได้ก่อนที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาด
ที่ผ่านมานั้น ตลาดหุ้นสิงคโปร์ทำผลงานได้ดีกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียในปีนี้ ส่วนเมื่อวานนี้ดัชนี Straits Times Index ปิดตลาดพุ่งขึ้นราว 7.8%
อย่างไรก็ดี จำนวนบริษัทที่นำหุ้นเสนอขายต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหุ้นสิงคโปร์นั้นยังน้อยกว่าตลาดอื่นๆ ในเอเชีย โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีเพียง 3 บริษัทที่ทำ IPO ในตลาดหุ้นสิงคโปร์ซึ่งระดมทุนได้ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตามหลังตลาดหุ้นฮ่องกงที่มีบริษัทจำนวนมากถึง 46 รายที่ทำ IPO และสามารถระดมทุนได้ 2.74 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ