นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันและเจ้าของบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ได้ปรับลดการถือครองหุ้นในบริษัทผลิตยาของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค, แอ๊บวี่ (AbbVie) และบริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์
นอกจากนี้ เบิร์กเชียร์ยังได้เทขายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ในบริษัทออร์กานอน แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับสตรีที่แยกตัวออกจากบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค และเทขายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ใบบริษัทลิเบอร์ตี้ โกลบอล ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารโทรคมนาคม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การปรับพอร์ตการลงทุนครั้งนี้เปิดเผยในรายงานที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) เพื่อระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการถือครองหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ ณ วันที่ 30 ก.ย.
อย่างไรก็ดี เบิร์กเชียร์ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัทรอยัลตี ฟาร์มา มูลค่า 475 ล้านดอลลาร์ และได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัทฟลอร์ แอนด์ เดคคอร์ โฮลดิ้งส์ มูลค่า 99 ล้านดอลลาร์ โดยรอยัลตี ฟาร์มา ทำธุรกิจซื้อสิทธิ (Royalty) ในการผลิตยา ส่วนบริษัทฟลอร์ แอนด์ เดคคอร์ ทำธุรกิจจำหน่ายวัสดุปูพื้น
บรรดานักลงทุนจับตาการลงทุนของบริษัทเบิร์กเชียร์อย่างใกล้ชิด เพื่อดูแนวทางการประเมินมูลค่าหุ้นของนายบัฟเฟตต์ รวมถึงนายทอดด์ คอมบ์ส และนายเทด เวสชเลอร์ ผู้จัดการด้านการลงทุนของนายบัฟเฟตต์
รายงานระบุว่า ณ สิ้นเดือนก.ย. 2564 บริษัทเบิร์กเชียร์ถือครองหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐมูลค่าทั้งสิ้น 3.107 แสนล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ เบิร์กเชียร์ลงทุนราว 41% ในหุ้นของบริษัทแอปเปิล และลงทุนราว 29% ในหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา, อเมริกัน เอ็กซ์เพรส และโคคา-โคลา