หุ้นแกร็บ โฮลดิ้งส์ (Grab Holdings) ร่วงลงอย่างหนักในการซื้อขายวันแรกที่ตลาด Nasdaq ของสหรัฐ หลังแกร็บเสร็จสิ้นการควบรวมกิจการกับบริษัทอัลติมิเตอร์ โกรท คอร์ป (Altimeter Growth Corp) ซึ่งนับเป็นข้อตกลงครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ในการควบรวมกิจการ (Special Purpose Acquisition Company หรือ SPAC)
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หุ้นแกร็บ ดิ่งลงถึง 21% แตะระดับ 8.67 ดอลลาร์ในการซื้อขายวันแรกที่ตลาด Nasdaq เมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) โดยแกร็บซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติสิงคโปร์นั้น เป็นผู้ให้บริการเรียกรถรับส่งและสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันมือถือรายใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักกับธุรกิจรับส่ง และการตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนทำให้มีการจำกัดการเดินทางครั้งใหม่ ขณะที่หุ้นอูเบอร์ เทคโนโลยีส์ อิงค์ ก็ได้ร่วงลงมากกว่า 10% แล้วนับตั้งแต่แอฟริกาใต้ประกาศการตรวจพบไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว
ส่วนสิงคโปร์ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแกร็บนั้นได้สั่งห้ามผู้เดินทางจาก 7 ประเทศในทวีปแอฟริกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และรัฐบาลสิงคโปร์ยังเปิดเผยเมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) ว่า ได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อโอไมครอน 2 รายที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ แกร็บยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าบริษัทจะมีความสามารถในการทำกำไรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่โรคโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาด
ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา แกร็บได้ปรับลดคาดการณ์รายได้ในปี 2564 ลง เนื่องจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เผชิญกับไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา และในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา แกร็บเปิดเผยว่า บริษัทขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 988 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3/2564 ขณะที่รายได้ลดลง 9% สู่ระดับ 157 ล้านดอลลาร์
ด้านนายแอนโทนี ตัน ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งแกร็บเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่า "เราเชื่อมั่นในธุรกิจของเรา โดยธุรกิจกำลังดำเนินไปด้วยดีในแง่ของการบรรลุเป้าหมายมูลค่าการใช้บริการรวม (Gross Merchandise Value) ของปีนี้ที่ระดับ 1.5-1.55 หมื่นล้านดอลลาร์"