สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เชลล์ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่สัญชาติอังกฤษประกาศผลกำไรปี 2564 พุ่งขึ้นอย่างมาก โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันและก๊าซที่ดีดตัวขึ้น
เชลล์รายงานผลกำไรเต็มปีอยู่ที่ 1.929 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2564 พุ่งขึ้นจากระดับผลกำไรในปี 2563 ที่ 4.85 พันล้านดอลลาร์ และสูงกว่าที่ผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์โดย Refinitiv คาดการณ์ไว้ที่ 1.78 หมื่นล้านดอลลาร์
สำหรับไตรมาส 4/2564 นั้น เชลล์รายงานผลกำไรที่ 6.4 พันล้านดอลลาร์
หุ้นเชลล์พุ่งขึ้นมากกว่า 20% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน หลังปรับตัวขึ้นมากกว่า 32% ในปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นยังคงต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาด
เชลล์เปิดเผยว่ามีแผนจะซื้อหุ้นคืนมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์ในเร็ว ๆ นี้ หลังจากที่ได้ขายธุรกิจแหล่งหินน้ำมันเพอร์เมียน (Permian Basin) ในสหรัฐ โดยมติดังกล่าวมีขึ้นในการประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งแรกในอังกฤษเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เชลล์ยังมีแผนที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 อีกด้วย อย่างไรก็ดี กลุ่มนักลงทุนรณรงค์แก้ปัญหาโลกร้อน "ไคลเมต แอ็คชั่น 100+" (Climate Action 100+) พบว่า เป้าหมายของเชลล์มีความสอดคล้องกับความตกลงปารีสเพียงบางส่วนเท่านั้น
อนึ่ง เมื่อปีที่แล้ว ศาลประเทศเนเธอร์แลนด์ตัดสินให้บริษัทเชลล์ต้องดำเนินการลดการปล่อยคาร์บอนในเชิงรุกมากกว่านี้ โดยต้องรับผิดชอบต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนของตนเอง ตลอดจนของซัพพลายเออร์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมด้วย (Scope 3 emissions) และต้องลดให้ได้ 45% ภายในปี 2573