ตลาดหุ้นอินโดฯร่วงหนัก วิตกเงินเฟ้อ-ดอกเบี้ยขาขึ้นฉุดหุ้นเทคโนโลยี

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ร่วงลง 1.4% ในช่วงเช้านี้ ซึ่งเป็นการร่วงลงวันเดียวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563 และตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ดัชนีทรุดตัวลงเกือบ 10% แล้ว เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มธนาคาร

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นอินโดนีเซียร่วงลงไปแล้ว 10.3% จากระดับสูงสุดที่ทำไว้เมื่อวันที่ 21 เม.ย.

หุ้นโกทู โกเจ็ก โทโกพีเดีย (GoTo Gojek Tokopedia ) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพเทคโนโลยีรายใหญ่สุดของอินโดนีเซีย เป็นหนึ่งในหุ้นที่ร่วงลงรุนแรงที่สุดในสัปดาห์นี้ เนื่องจากแนวโน้มการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มธุรกิจของบริษัท

จอห์น เทจา ประธานบริษัทพีที ซิปทาดานา ซีคูริทาส เอเชียกล่าวว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อและแนวโน้มที่ธนาคารกลางทั่วโลกจะแห่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย อย่างไรก็ดี เขาคาดว่าตลาดมีแนวโน้มลดลงอย่างจำกัด เนื่องจากมีนักลงทุนที่ยังคงให้ความสนใจซื้อหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น หุ้นอดาร์โร เอ็นเนอร์จี และหุ้นฮารัม เอ็นเนอร์จี

ด้านมูฮัมหมัด อัลฟาตีห์ นักวิเคราะห์จากบริษัทซามูเอล ซีคูริทาส อินโดนีเซียกล่าวว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของอินโดนีเซียที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี จะเป็นปัจจัยเร่งให้ธนาคารกลางอินโดนีเซียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้น พร้อมกับกล่าวว่า การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงนั้น จะส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อราคาหุ้นของหลายบริษัทในอินโดนีเซีย