ราคาหุ้นเทสลาร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ในการซื้อขายเมื่อวันอังคาร (20 ธ.ค.) และปิดตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ประมาณ 138 ดอลลาร์ต่อหุ้น หรือร่วงลง 8% ในวันเดียว
นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาอ้างว่า ปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคาหุ้นร่วงลง
นายรอสส์ เกอร์เบอร์ ผู้สนับสนุนเทสลามาอย่างยาวนานทวีตข้อความว่า "ราคาหุ้นของเทสลาตอนนี้สะท้อนมูลค่าของการไม่มีซีอีโอ คณะกรรมการบริหารของเทสลาทำงานดีมาก ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงแล้ว"
ทั้งนี้ นายเกอร์เบอร์ได้ออกแคมเปญอย่างไม่เป็นทางการเพื่อให้กลุ่มผู้ถือหุ้นคนอื่น ๆ โหวตเลือกตนเองเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของเทสลา
นายมัสก์ทวีตตอบกลับว่า "เมื่ออัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ของธนาคารเพิ่มสูงขึ้น ผู้คนก็เริ่มย้ายเงินตัวเองออกจากตลาดหุ้นไปถือเงินสด ซึ่งทำให้ราคาหุ้นร่วงลง เนื่องจากดอกเบี้ยของธนาคารเป็นสิ่งที่ได้แน่ ๆ แต่การลงทุนในตลาดหุ้นนั้นไม่แน่นอน"
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ราคาหุ้นของเทสลาร่วงลงมากกว่าผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่รายอื่น ๆ นับตั้งแต่นายมัสก์ประกาศแผนเข้าซื้อทวิตเตอร์ในเดือนเม.ย. 2565 โดยหลังจากนั้นราคาหุ้นเทสลาร่วงลงถึง 59% ขณะที่ราคาหุ้นของฟอร์ดลดลง 26% และราคาหุ้นของจีเอ็มมอเตอร์ลดลง 12% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปรับตัวลง 14%