บริษัทแอลวีเอ็มเอช โมเอต์ เฮนเนสซี่ หลุยส์ วิตตอง (LVMH) เริ่มไต่ขึ้นมาเข้าใกล้กับบริษัทเทสลา ซึ่งอยู่อันดับที่ 9 ของในลิสต์บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อวัดตามมูลค่าตลาด หลัง LVMH เข้ามาอยู่ในอันดับที่ 10 ได้เพียงไม่กี่วัน
หุ้นของ LVMH พุ่งขึ้น 6.9% ในเดือนนี้ ทำให้มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นสู่ระดับราว 5 แสนล้านดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายในไตรมาสแรกของปีที่แข็งแกร่งกว่าคาด ขณะที่หุ้นของเทสลาร่วงลง 23% ในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้มูลค่าตลาดร่วงลงสู่ระดับ 5.05 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากการปรับลดราคารถยนต์ได้บั่นทอนความสามารถในการทำกำไร
ขณะเดียวกัน อันดับความมั่งคั่งของเจ้าของบริษัททั้ง 2 แห่งข้างต้นจากข้อมูลของ Bloomberg Billionaires Index ได้สลับกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่เพิ่มขึ้นได้ผลักดันให้ความมั่งคั่งของนายเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ซีอีโอของ LVMH พุ่งขึ้นแตะระดับเกือบ 2.12 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกในตอนนี้ ขณะที่นายอีลอน มัสก์ ร่วงลงสู่อันดับ 2 โดยมีมูลค่าสินทรัพย์อยู่ที่ 1.65 แสนล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ LVMH และคู่แข่งแบรนด์สินค้าหรูเจ้าอื่น ๆ ในฝรั่งเศสมีบทบาทต่อตลาดหุ้นยุโรปแบบเดียวกับที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่าง ๆ มีต่อตลาดหุ้นสหรัฐ กล่าวคือ เป็นธุรกิจเจ้าตลาดที่ยังคงการเติบโตเอาไว้ได้แม้เศรษฐกิจจะผันผวนก็ตาม