มูลค่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นพุ่งขึ้นอย่างมากถึง 5.18 แสนล้านดอลลาร์แล้วในปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่า หุ้นญี่ปุ่นกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้ และมีความต้องการลงทุนอย่างมากในปีนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักลงทุนที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก และธนาคารรายใหญ่ในย่านวอลล์สตรีทต่างเห็นพ้องกันว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะเป็นแหล่งลงทุนที่น่าดึงดูดใจ เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่า ตลาดขนาดใหญ่อื่น ๆ เช่น สหรัฐและจีน กำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีแนวโน้มการปรับตัวที่ดีขึ้นและมีอุปสรรคต่าง ๆ น้อยกว่า
ทั้งนี้ ดัชนี Topix ปิดตลาดวันศุกร์ (19 พ.ค.) ที่ระดับ 2,161.69 จุด โดยปรับตัวขึ้น 3.8% แล้วในเดือนพ.ค. ขณะที่ดัชนีนิกเกอิ 225 ทะยานขึ้นมากกว่า 5% และปิดตลาดวันศุกร์ที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 33 ปี ขณะที่ดัชนี CSI 300 ของจีนร่วงลงราว 3.5% และดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นน้อยกว่า 1%
บริษัทด้านการลงทุน อาทิ แมน จีแอจี, เจพีมอร์แกน แอสเซต แมเนจเมนต์ และมอร์แกน สแตนลีย์ เชื่อว่า ดัชนี Topix ของญี่ปุ่นยังคงมีศักยภาพในการเติบโต โดยเมื่อไม่นานมานี้ ดัชนีแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2533 โดยราคาหุ้นในญี่ปุ่นพุ่งทะลุระดับแนวต้านครั้งก่อนที่ถือเป็น "ฝาโลงเหล็ก"
การปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อ, ผลตอบแทนที่ดีขึ้นสำหรับผู้ถือหุ้น และการรับรองจากนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนนั้น ล้วนเป็นปัจจัยทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นน่าสนใจมากขึ้น โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นถือเป็นตลาดหุ้นใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก
นายแจ็ค เอบลิน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการลงทุนของเครสเซ็ต แคปิตอล แมเนจเมนต์ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนในชิคาโกที่บริหารสินทรัพย์ราว 6 หมื่นล้านดอลลาร์ระบุว่า "ญี่ปุ่นเป็นตลาดหุ้นระดับโลกยอดนิยมของผมในเวลานี้ เราเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นราว 50% ในกลยุทธ์การลงทุนของเราในตลาดที่พัฒนาแล้ว"
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้รับความสนใจในขณะที่นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ และแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่เป็นไปอย่างล่าช้านั้น ได้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนทั่วโลก
ในเดือนพ.ค. กองทุนต่างชาติเพิ่มการถือครองหุ้นญี่ปุ่น หลังจากเข้าซื้อลอตใหญ่วงเงิน 2.2 ล้านล้านเยนในเดือนเม.ย.ซึ่งเป็นปริมาณสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2560
นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้ช่วยหนุนความเชื่อมั่นเกี่ยวกับตลาดหุ้นญี่ปุ่น โดยเขาได้ให้การรับรองตลาดหุ้นญี่ปุ่นระหว่างการเดินทางเยือนเมื่อต้นปีนี้ ขณะที่โซซิเอเต้ เจเนเรล และพิกเท็ต เวลธ์ แมเนจเมนต์ ก็อยู่ในกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น และลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นสหรัฐ