สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เชลล์ บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ เตรียมเพิ่มเงินปันผล 15% และเพิ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากนายวาเอล ซาวาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ หันมาให้ความสำคัญกับเชื้อเพลิงฟอสซิลที่เป็นปัจจัยให้ผลกำไรแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2565
การเพิ่มเงินปันผลเป็นส่วนหนึ่งของจุดเปลี่ยนของเชลล์ในการขยายธุรกิจส่วนที่ทำกำไรได้มากที่สุด แม้ว่าจะเป็นส่วนที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนมากก็ตาม ขณะเดียวกันก็ลดขนาดธุรกิจที่ไม่ให้ผลตอบแทนสูงพอ
อย่างไรก็ดี บริษัทเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593
นายซาวานระบุในแถลงการณ์ว่า "เราจะลงทุนในโมเดลที่ได้ผล ซึ่งเป็นโมเดลที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดและเหมาะสมกับจุดแข็งของเรา"
นายซาวานและทีมผู้บริหารของเขาจะระบุรายละเอียดเพิ่มเติมของแผนดังกล่าวให้แก่ผู้ถือหุ้นในระหว่างการนำเสนอในนิวยอร์กในวันพุธนี้ (14 มิ.ย.)
นอกจากการเพิ่มเงินปันผล ซึ่งจะมีผลในไตรมาสนี้ เชลล์จะเดินหน้าซื้อหุ้นคืนอย่างน้อย 5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งหลังของปี 66
บริษัทจะลดรายจ่ายฝ่ายทุนลงเหลือ 2.2-2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี ในปี 2567 และ 2568
รายงานระบุว่า กุญแจสำคัญในการได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นคือธุรกิจน้ำมันและก๊าซที่ขับเคลื่อนผลกำไรส่วนใหญ่ของเชลล์
บริษัทจะไม่พยายามลดการผลิตน้ำมันลง 1%-2% ต่อปีอีกต่อไป โดยอ้างว่าได้บรรลุแผนลดการผลิตขั้นต้นเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่ประกาศไว้ในปี 2564 ได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
ตอนนี้ เชลล์จะพยายามขยายธุรกิจก๊าซแบบครบวงจรและจะคงระดับปริมาณการผลิตน้ำมันไว้จนถึงปี 2573