กองทุนเฮดจ์ฟันด์และบริษัทจัดการสินทรัพย์ทั่วโลกกำลังค้นหาบุคลากรที่เชี่ยวชาญในกรุงโตเกียว เพื่อที่จะเข้ามาขยายการดำเนินงานในประเทศญี่ปุ่น และฉวยประโยชน์จากความสนใจที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุน ซึ่งได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นักลงทุนรายใหญ่อย่างนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ เจ้าของอาณาจักรเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ ได้อัดฉีดเงินลงทุนจำนวนมากในตลาดหุ้นญี่ปุ่นในปีนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนีนิกเกอิทะยานขึ้น 22% และเป็นหนึ่งในดัชนีที่ปรับตัวได้ดีที่สุดในปีนี้ โดยนักลงทุนขานรับสัญญาณบวกจากการที่ญี่ปุ่นปรับปรุงระบบธรรมาภิบาล และบริษัทจำนวนมากในญี่ปุ่นให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นกับผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ การปรับปรุงระบบธรรมาภิบาลของบริษัทเอกชนญี่ปุ่นเป็นปัจจัยดึงดูดบรรดานักลงทุนกลุ่ม Activist ให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวเผชิญกับความยากลำบากในการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัทญี่ปุ่น โดยการปรับปรุงระบบธรรมาภิบาลจะทำให้นักลงทุนเหล่านี้สามารถมีอิทธิพลและเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัทญี่ปุ่นได้
นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังต้องการปรับปรุงสถานะของกรุงโตเกียวให้เป็นศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศ และพยายามแก้ไขปัญหาบางประการที่ทำให้กรุงโตเกียวมีความน่าดึงดูดน้อยกว่าฮ่องกงหรือสิงคโปร์ โดยการทบทวนระบบภาษีสำหรับผู้จัดการกองทุนต่างชาติ และเปิดตัวการบริหารต่าง ๆ เป็นภาษาอังกฤษเพื่อดึงดูดบริษัทต่างชาติให้เข้ามาลงทะเบียนในญี่ปุ่น
มาสะ ยานากิซาวะ หัวหน้าฝ่ายบริการลูกค้าชั้นดีของโกลด์แมน แซคส์ในกรุงโตเกียวกล่าวว่า "เฮดจ์ฟันด์ระดับโลกจำนวนมากกำลังเข้ามาเปิดสำนักงานในกรุงโตเกียว และจ้างพนักงานที่มีทักษะสูง เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานที่มุ่งเน้นด้านการลงทุนที่กำลังขยายตัว"